กระบี่ 17 พ.ค.-ศาลอนุมัติให้ฝากขัง “บังเลาะ” หนึ่งในผู้ต้องหาสังหาร “เสี่ยสุชาติ” และไม่อนุญาตให้ประกันตัว ขณะที่ผู้ต้องหาขอโทษสังคม และตำรวจ ที่พูดว่าถูกทำร้ายให้รับสารภาพ ไม่เป็นความจริง แต่พูดเพราะความเครียด
ความคืบหน้าคดีสังหารโหด อุ้มฆ่าฝังดิน นายสุชาติ ขาวล้วนอายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่ง ใน อ.ทับ จ.กระบี่ ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.ลำทับ สภ.อ่าวนาง และสภ.กระบี่ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 คน คือนายบังหนี (ไม่ทราบสกุล) หลังเมื่อ 14 พฤษภาคม นายสุวิทย์ หรือบังเลาะ เริงสมุทร อายุ 26 ปี 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้เข้ามอบตัว
วันนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัว นายสุวิทย์ หรือ บังเลาะ เริงสมุทร ไปขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ฝากขัง โดยเป็นการดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากอยู่ในช่วงการระบาดของโรคโควิด ซึ่งศาลได้อนุญาตฝากขัง และไม่ให้ประกันตัวแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ทั้งนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่ นำตัวนายสุวิทย์ ออกจากห้องขัง สภ.อ่าวนาง นายสุวิทย์ กล่าวข้อโทษเจ้าหน้าที่ ที่ให้ข่าวว่าถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งความเป็นจริง ตนไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่ด้วยความกดดัน ความเครียด เลยพูดคำนั้นออกไป
ด้าน พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในการสอบปากคำนายสุวิทย์เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) มีทนายความและภรรยาร่วมรับฟังด้วยนั้น นายสุวิทย์ บอกว่า ไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด อาจจะเกิดจากความเครียดสับสน เพราะถูกกดดัน แต่ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้นำตัวนายสุวิทย์ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่พบ ร่องรอยถูกทำร้าย ซึ่งนายสุวิทย์ก็ได้ขอโทษสังคม และตำรวจไปแล้ว ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ส่วนกรณีที่จะขอหมายจับผู้ต้องอีก 1 คน คือ บังหนี น้องชายนายสุริยา หรือ บังฟิต ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบพยานหลักฐาน และต้องทำอย่างรัดกุม
ส่วนการติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหา ที่ยังหลบหนีหมายจับ 2 คน คือ นายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร และนายสุรชัย หรือกิบหลี เริงสมุทร อายุ 38 ปี ชุดสืบสวนยังเร่งติดตามเบาะแสของทั้ง 2 พี่น้อง โดยมีรายงานว่าทั้ง 2 คน พยายามติดต่อผ่านบุคคลสำคัญในพื้นที่ ต.หนองทะเล ให้เป็นคนกลางประสานกับตำรวจ เพื่อจะขอเข้ามอบตัว ทำให้ชุดสืบสวนมั่นใจว่าทั้ง 2 พี่น้อง น่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.กระบี่ นอกจากนี้ชุดคลี่คลายคดีเตรียมรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อประมวลเหตุทั้งหมด โดยเฉพาะการขุดหลุมฝังรถของนายสุชาติ เบื้องต้นคาดอาจจะมีรถแบ็กโฮอีกคันที่มาทำหน้าที่ฝังกลบ ซึ่งต้องติดตามหาตัวมาสอบปากคำ
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นจากลูกสาวนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี ร้องเรียนว่าพ่อหายตัวไป พร้อมรถเก๋งโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ ขณะไปติดตามทวงหนี้ กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จำนวนเงิน 3 แสนบาท จึงมีการสืบสวนสอบสวน ต่อมาพบรถเก๋ง คันดังกล่าวถูกเผาฝังดินในสวนปาล์ม บ้านหนองแบก หมู่ 1 ต.หนองทะเล ห่างไปราว 700 เมตร พบศพนายสุชาติ ถูกราดด้วยน้ำกรดฝังในหลุมลึก 1 เมตร ในสภาพศพถูกยิงที่ศีรษะและราวนมซ้ายรวม 2 นัด จากนั้นตำรวจจึงขอศาลอนุมัติหมายจับ 3 ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ประกอบด้วย นายสุริยา เริงสมุทร หรือ “บังฟิต” นายสุรชัย เริงสมุทร หรือ “บังกิบหลี” และ นายสุวิทย์ เริงสมุทร ก่อนที่นายสุวิทย์จะชิงเข้ามอบตัวเมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม พร้อมให้การว่า “บังฟิต” เป็นคนจ่อยิงนายสุชาติส่วนตนเองช่วยนำศพไปฝัง นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน จ่อขอหมายจับ “บังหนี” น้องชาย “บังฟิต” ผู้ต้องหา อีกคน ตามคำให้การของ นาย สุวิทย์ หรือ บังเลาะ.-สำนักข่าวไทย