เชียงใหม่ 13 พ.ค.- เจ้าหน้าที่เพิ่มการคุมเข้ม 5 อำเภอชายแดนของเชียงใหม่ ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง สกัดเชื้อโควิด-19 เข้ามาในพื้นที่
พลตรีนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ประสานฝ่ายปกครอง ตำรวจ และตำรวจตระเวนชายแดน ในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน ของเชียงใหม่ ที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ และอำเภอเวียงแหง เพิ่มการวางกำลังเป็น 45 ชุดปฏิบัติการ และตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่เสี่ยง จำนวน 28 ชุดปฏิบัติการ รวมถึงจัดตั้งด่านตรวจ เพื่อคัดกรองโควิดจำนวน 4 จุดเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดน ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ทั้งคนไทยที่ลักลอบข้ามไปทำงานและลักลอบกลับมา และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่หลบหนีเข้ามาทำงาน ทั้งช่องทางหลักและช่องทางธรรมชาติ เพื่อสกัดไม่ให้นำเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดียเข้ามาในพื้นที่ การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เน้นให้กำลังทหารเพิ่มความถี่ ออกลาดตระเวนเฝ้าตรวจทั้งกลางวัน และกลางคืน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณช่องทางธรรมชาติ เขตติดต่อไทย-เมียนมา
กาญจนบุรี จับ 29 แรงงานเมียนมา ลักลอบเข้าเมือง
ที่จังหวัดกาญจนบุรี หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมา ที่ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน ช่องทางบ้านพุน้ำร้อนปลายทางไปจังหวัดสมุทรปราการ ได้อีก 29 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กำชับให้เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานสนธิกำลังป้องกันและปราบปรามกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าแรงงานเหล่านี้จะนำพาเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่อาจจะมีเชื้อกลายพันธุ์แพร่ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจากการสอบถามแรงงาน ให้การว่า พวกตนเดินทางมาจาก จ.ทวาย ประเทศเมียนมา ใช้เวลาเดินเท้า 4 วัน โดยลัดเลาะตามเส้นทางตามธรรมชาติ จากนั้นคนนำพาจะนำทางไปยังจุดรับส่งขึ้นรถอีกที ซึ่งจ่ายเงินให้นายหน้าฝั่งเมียนมาก่อนเดินทางแล้ว เป็นจำนวนเงิน 13,000 – 20,000 บาท ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เรือโดยสาร รถยนต์โดยสาร ประชาชนที่ในพื้นที่ รวมถึงที่พักรีสอร์ตต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ติดชายแดนให้ช่วยสอดส่อง รวมถึงแจ้งเบาะแสด้วย.-สำนักข่าวไทย