ชายวัย 41 หลอนยาคลั่งมีดฟันพ่อแม่ดับอนาถ

อุดรธานี 12 พ.ค.-ลูกทรพี เมายาบ้า ฟันคอพ่อแม่เสียชีวิต อ้างพ่อแม่ไม่ยอมให้เอาควายที่ซื้อให้ไปขาย ด้านพี่สาวเผยเคยชวนพ่อแม่ย้ายมาอยู่ด้วย แต่ไม่ยอม ถึงขั้นยกบ้านให้น้องชาย แล้วย้ายไปอยู่โรงเก็บหน่อไม้แทน


ตำรวจ สภ.กุมภวาปี ภ.จว.อุดรธานี สอบสวนเหตุ ลูกชายหลอนยาบ้าคลั่ง ใช้มีดพร้าฟันคอพ่อและแม่เสียชีวิต อยู่ในโรงเก็บหน่อไม้หลังบ้านเลขที่ 14 ม.3 บ.เหล่ากล้วย ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ผู้ก่อเหตุรอมอบตัวอยู่หน้าบ้าน พร้อมมีดพร้ายาวประมาณ 60 ซม. ที่ใช้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุมีอาการเมายาบ้าพูดจาวกวน ที่เกิดเหตุเป็นโรงเก็บหน่อไม้เก่า ที่ผู้ตายใช้พักอาศัย อยู่บริเวณหลังบ้านชั้นเดียวเนื้อที่ราว 2 ไร่ ตรวจสอบภายในห้องนอน มีร่องรอยการต่อสู้จนมุ้งหมอนที่นอนและข้าวของกระจัดกระจาย พบศพนายพิสิฐ บุญโยรัตน์ อายุ 73 ปี และนางละออง บุญโยรัตน์ อายุ 67 ปี สามีภรรยาท่าเป็นพ่อแม่แม้ๆ ของผู้ก่อเหตุ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ข้างที่นอนใกล้กับประตูทางเข้าบ้าน สภาพศพลำคอด้านหลังถูกมีดพร้าฟันหลายครั้งคอเกือบขาดทั้ง 2 คน เสียชีวิตมา 12 ชั่วโมง

นายปิยะพงษ์ บุญโยรัตน์ อายุ 41 ปี ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกชายคนเดียวและเป็นคนสุดท้องของผู้ตาย จากพี่น้องร่วมท้องเดียวกันรวม 4 คน ตรวจสอบที่ข้างบ้านพบร่องรอยการขุดหลุมขนาดใหญ่ 2 หลุม ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นคนขุดไว้ เตรียมที่จะฝังพ่อกับแม่ หลังสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำด้วยความโมโหขาดสติ เพราะหลอนยาบ้า จึงนั่งรอมอบตัวกับตำรวจ


สอบสวน นางคำบง บรรจงรัตน์ อายุ 48 ปี และนางอนงค์ ใจมั่น อายุ 50 ปี พี่สาวคนโตและคนที่ 2 ให้การว่า น้องชายติดยาบ้ามานานเกือบ 3 ปี ที่ผ่านมาอาการไม่หนักถึงขั้นนี้ แต่มาระยะหลังน้องชายชอบจูงควายที่แม่ซื้อมาให้เลี้ยงไปรอบหมู่บ้าน พร้อมกับพูดจาคนเดียว บางวันก็เอะอะโวยวาย ตนและพี่สาวคนโตกลัวจึงย้ายไปอยู่ที่สวน และบอกพ่อกับแม่ย้ายบ้านไปอยู่ด้วยกัน แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม พร้อมกับยกบ้านของพ่อแม่ให้น้องชายอยู่คนเดียว ส่วนพ่อแม่ก็มาใช้โรงเก็บหน่อไม้ที่หลังบ้านเป็นที่อาศัยหลับนอน กระทั่งมาเช้านี้ ไม่เห็นพ่อและแม่ออกมาจากบ้าน โทรหาก็ไม่รับสาย ตนจึงใช้หลานชายมาดู พบว่าน้องชายฆ่าพ่อแม่เสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในบ้านแล้ว ซึ่งขณะนั้นน้องชายยังอยู่ในอาการเมายาบ้าขาดสติ หลังจากฆ่าพ่อและแม่แล้ว ยังมานั่งหัวเราะถือมีดพร้าอยู่หน้าบ้าน และไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบและจับกุมตัวน้องชาย

พี่สาวทั้ง 2 ของผู้ก่อเหตุ บอกอีกว่า ส่วนเรื่องที่น้องชายอ้างว่าพ่อกับแม่จะใช้ปืนและมีดฆ่าควายให้ตายนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะพ่อกับแม่ซื้อควายเพศเมียมาให้น้องชายเลี้ยง เพื่อจะให้น้องมีทรัพย์สินเก็บไว้ในอนาคตข้างหน้า เพราะควายจะตกลูกทุกปี เพราะน้องติดยาบ้าจยถูกไล่ออกจากงาน ทุกวันนี้น้องชายก็อาศัยกินอยู่กับพ่อและแม่ ไม่มีเงินพ่อแม่ก็ให้ใช้ เพราะแกรักน้องชายมาก เพราะเป็นลูกชายคนเดียว ขณะเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินเสียง เนื่องจากบริเวณบ้านมีเนื้อที่กว้าง และพวกตนก็ย้ายไปอยู่บ้านสวนและบ้านญาติ แต่ก็พยายามติดต่อทางโทรศัพท์บอกให้พ่อแม่ย้ายไปอยู่กับพวกตน แต่พ่อแม่ไม่ยอมไปอยู่ด้วย โดยอ้างว่าลูกชายคงไม่กล้าทำอะไรผู้เป็นพ่อและแม่ และแล้วก็มาเกิดเหตุที่พวกตนกลัวจะเกิดขึ้นจนได้ ทั้งนี้เป็นเพราะพิษสงของยาบ้า

นายกิตติ นาทันตอง อายุ 56 ปี ผญบ.เหล่ากล้วย เปิดเผยว่า ปกติผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี แต่ระยะหลังมาติดเสพยาบ้า และเมื่อเมายาบ้าก็จะมีอาการหลอน เอะอะโวยวานเป็นประจำ และทุกครั้งตนและตำรวจก็มาว่ากล่าวตักเตือน และก็ยอมสงบสติอารมณ์ทุกครั้ง กระทั่งช่วงค่ำวานนี้ (11 พ.ค.) ผู้ก่อเหตุได้จูงควายไปบอกกับตนให้เป็นพยานว่า ควายตัวนี้เป็นของตนเอง ไม่ใช่ของพ่อแม่ เพราะตนเป็นคนเลี้ยงดู ก่อนจะจูงควายกลับมาบ้าน กระทั่งเช้าก็ได้รับแจ้งว่ากลับไปก่อเหตุฆ่าพ่อและแม่ตายทั้ง 2 คน


ส่วนการทำแผน กำลังตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี มาสอบสวนปากคำคนร้าย และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากการใช้เท้าถีบพังประตู 3 ครั้ง เข้าไปใช้มีดพร้าฟันคอแม่และพ่อจนเสียเสียชีวิต ขณะพ่อและแม่ปิดไฟนอนหลับอยู่ภายในห้องนอน เวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และชี้จุดขุดหลุมเพื่อเตรียมตัวฝังพ่อและแม่ ก่อนนำตัวไปกราบขอขมาศพบริเวณประตูหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ด้วยอาการคล้ายกับคนเมายาบ้าขาดสติ ที่เข้าข้างตัวเอง และไม่รู้ถูกรู้ผิดในสิ่งที่กระทำต่อบุพการี แต่ก็ให้การสำนึกและยอมชดใช้กรรมในสิ่งที่กระทำลงไป

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า จาการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนใช้มีดพร้าฟันคอแม่และพ่อหลายครั้งจนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุคนร้ายอ้างว่า พ่อและแม่ไม่ให้นำควายที่พ่อและแม่ซื้อให้เลี้ยงมา 2 ปี และขณะนี้กำลังตั้งท้องไปขาย เนื่องจากคนร้ายไม่มีงานทำ และติดยาเสพยาบ้า แต่ลูกชายจะนำควายไปติดต่อขาย ซึ่งพ่อกับแม่ไม่ให้ขาย และบอกหากนำไปขายจะฆ่าควายให้ตาย กระทั่งช่วงหัวค่ำวานนี้ (11 พ.ค.) คนร้ายจึงจูงควายไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่า พ่อกับแม่จะฆ่าควายของตัวเอง จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน และนำควายไปฝากไว้ที่คอกกับเพื่อนบ้าน ก่อนกลับมาก่อเหตุใช้อาวุธมีดพร้าฟันคอแม่พ่อจนเสียชีวิต ในเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และฆ่าบุพการี ส่วนเรื่องยาเสพติดจะต้องรอผลตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ปล่อยแถวเจ้าหน้า​ที่​รักษาความสงบเรียบร้อยช่วงสงกรานต์

นายกฯ ปล่อยแถวเจ้าหน้า​ที่​ป้องกันอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อยช่วงสงกรานต์​ ขอบคุณเสียสละช่วงวันหยุดดูแลประชาชน​ ฝากอย่าให้เกิดสิ่งผิดกฎหมาย​ สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ​ หลังมีข่าวลือเยอะ​

ปชช.ทยอยกลับภูมิลำเนา จราจรมุ่งหน้าเหนือ-อีสาน เริ่มหนาแน่น

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปริมาณรถมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือและอีสาน เริ่มหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนตัวตามกันได้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลและอำนวยความสะดวกการเดินทาง

นายกฯ ระดมทีมสร้างความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย

“นายกฯ แพทองธาร” ระดมทีมท่องเที่ยว ทำความเข้าใจ สร้างภาพลักษณ์ไทยไม่อันตราย หลังแผ่นดินไหว ตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวแทนยอดที่หาย ดึงชาติอื่นแทนจีน