กาฬสินธุ์ 10 พ.ค.-ผู้ใหญ่ใจดีแห่ให้กำลังใจ “น้องโวลต์” เด็กเก่ง เรียนดีแต่ยากจน สอบติดแพทย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยอดบริจาคพุ่ง 2.7 ล้านบาท
นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เข้าเยี่ยมครอบครัวนางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือน้องโวลต์ อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ใน ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ น้องโวลต์ คือ นักเรียนคนเก่ง ที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน บ้านเป็นเพิงหมาแหงนมุงสังกะสี กลางสวนท้ายหมู่บ้าน
น้องโวลต์ เล่าว่า ตนมีความสนใจที่จะเรียนหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตมานาน เพราะเห็นว่าเป็นอาชีพที่สามารถรักษาคนเจ็บป่วยให้หายเป็นปกติ ถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญ และคอยช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ยิ่งมาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ยังไม่เพียงพอ จึงตั้งใจที่จะเรียนให้จบหลักสูตร และนำความรู้ ความสามารถ มาประกอบวิชาชีพในการรักษาพยาบาลคนป่วยไข้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์บ้านเกิด
ตนทราบว่าทุนที่จะใช้ในการศึกษาหลักสูตรดังกล่าวสูงมาก แต่ก็มีความตั้งใจจริงที่จะศึกษาให้จบ โดยเบื้องต้นได้กู้เงิน กยศ. เพื่อเป็นทุนการศึกษา แต่คงไม่เพียงพอ อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ปกครอง จึงปรึกษากันเพื่อเปิดบัญชีขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษา ซึ่งคิดว่าน่าจะได้ไม่เท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าธารน้ำใจกลับล้นหลาม มีผู้ใจดีโอนเงินเข้ามาจำนวนมาก จนเกินความคาดหมาย จึงขอยุติการรับโอน และขอกราบขอบพระคุณทุกท่านอย่างมาก ซึ่งตนจะตั้งใจเรียน และทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะเป็นหมอรักษาคนเจ็บป่วยความความฝันที่ได้ตั้งใจไว้
ด้านนายธนวุฒิ เหล่าบุบผา พ่อน้องโวลต์ กล่าวว่า ตนกับภรรยามีบุตรด้วยกัน 3 คน คนโตรับราชการทหาร น้องโวลต์เป็นคงกลาง และลูกสาวอีกคนกำลังจะขึ้นชั้น ม.5 น้องโวลต์เป็นเด็กดี ขยันเรียนมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ซึ่งตนกับภรรยาประกอบอาชีพปลูกผักสวนครัว ส่งขายให้กับพ่อค้า แม่ค้า นำไปขายตลาดสด รายได้ก็พอเลี้ยงครอบครัวและส่งเสียบุตรเล่าเรียนหนังสือตามกำลัง ตนเพิ่งมาทราบว่าน้องโวลต์อยากเรียนแพทย์อย่างจริงจังเมื่อตอนเรียน ม.4 เพราะเห็นหาหนังสือสำหรับหลักสูตรนี้มาอ่านหลายเล่ม ซึ่งตนก็ให้กำลังใจ และพยายามกัดฟันสู้ หาเงินเป็นทุนการศึกษาให้ลูก
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามหลายๆคน เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ระหว่างเรียนแพทย์ ว่าจำนวนสูงมาก เกินกำลังแรงที่พ่อแม่ที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจะส่งเสียได้ ที่หนักใจ คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างเรียน หากเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวน่าจะพอหาได้ พอครูที่ปรึกษาที่เห็นแววน้องโวลต์มาปรึกษา เพื่อหาทุนการศึกษาและส่งต่อน้องโวลต์สู่จุดหมาย จึงขอกราบขอบพระคุณทุกท่านมีจิตศรัทธาช่วยเหลือน้องโวลต์และครอบครัวตนในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเบิกจ่ายเงินที่ได้รับการโอนเข้ามาช่วยเหลือ ด้านนายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เผยว่า จะร่วมหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับแนวทางการจ่ายเงิน เพื่อให้เงินทุกบาทที่ได้รับบริจาคมาเกิดผลคุ้มค่า และสมเจตนารมณ์ของผู้มีจิตอันเป็นกุศลมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย