นศ.สาวแจ้งจับ “เด่นภูมิ” โมเดลลิ่งเก๊ ลวงไปข่มขืน

ชลบุรี 10 พ.ค. – นักศึกษาสาวเหยื่อรายที่ 5 เข้าแจ้งความตำรวจ สน.บวรมงคล ให้ดำเนินคดีกับ “เด่นภูมิ” โมเดลลิ่งเก๊ หลังถูกล่อลวงบังคับเสพยา-ขืนใจ เผยมีพริตตี้ตกเป็นเหยื่อรวม 36 รายแล้ว


ที่ สน.บวรมงคล น.ส.พราว (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เหยื่อรายที่ 5 เดินทางจาก จ.ชลบุรี เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเด่นภูมิ อายุ 39 ปี โมเดลลิ่งเก๊จอมหื่น ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำนนต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธ และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”

น.ส.พราว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายเด่นภูมิได้ใช้ไลน์ทักมาหา บอกจะจ้างงานให้มาเอ็นเตอร์เทนลูกค้านักธุรกิจชาวมาเลเซียที่ย่านจรัญสนิทวงศ์ ให้ค่าตอบแทนสูง แค่ชงเหล้า 5 ชั่วโมง ได้ค่าแรงสูงถึง 20,000 บาท เมื่อมาถึงตนก็โทรหานายเด่นภูมิ เขาอ้างว่าลูกค้าติดธุระ ให้เปิดห้องรอก่อน ที่โรงแรมย่านจรัญสนิทวงศ์


จากนั้นได้ยินเสียงเคาะประตู ตอนแรกคิดว่าเป็นพนักงาน เมื่อเปิดประตูกลับพบนายเด่นภูมิใช้มีดจี้ และพูดว่าอย่าส่งเสียงดัง หากส่งเสียงดังจะถูกฆ่า ตนจึงร้องขอชีวิตและพยายามให้ทรัพย์สินในตัวเป็นเงินประมาณ 1,000 บาท

จากนั้นนายเด่นภูมิได้บังคับให้ตนเสพไอซ์ที่เขาเตรียมมาเอง และถ่ายคลิปไว้ระหว่างเสพยาและมีเพศสัมพันธ์กัน ก่อนใช้ด้ามมีดยัดเข้าไปในอวัยวะเพศจนเลือดออก และเตะต่อย ต่อมา ช่วงกลางดึกวันที่ 8 เม.ย. นายเด่นภูมิใช้ไลน์ปลอมไปโพสต์หาเด็กเอ็นเตอร์เทนที่พร้อมรับงานในกลุ่มพริตตี้ด้วยตัวเอง จนกระทั่ง น.ส.ฝน (นามสมมติ) เหยื่อรายที่ 2 ซึ่งแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ไปก่อนหน้านี้ หลงเชื่อ ก็โดนกระทำไม่ต่างจากตน กระทั่งช่วงสายวันที่ 9 เม.ย. ทั้งตนและ น.ส.ฝน ตัดสินใจออกอุบายขอโทรศัพท์มือถือคืนจากนายเด่นภูมิได้ จากนั้นทั้งตนและ น.ส.ฝน จึงรีบใส่เสื้อผ้าวิ่งออกจากโรงแรม เพื่อหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนเรียกแท็กซี่แยกย้ายกันหลบหนีกลับที่พัก
หลังเกิดเหตุนายเด่นภูมิ ยังพยายามติดต่อมาข่มขู่ตลอดเวลา อ้างว่ารู้จักผู้มีอิทธิพลในพัทยา สามารถสั่งเก็บตนได้ และจะโพสต์คลิปมีสัมพันธ์กันประจานลงโซเชียล ตนจึงตัดสินใจบล็อกทุกการติดต่อ

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุยังมีการตั้งไลน์เพื่อรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายรายอื่นๆ ซึ่งพบว่ามีพริตตี้แสดงตัวเข้าร่วมกลุ่มไลน์ระบุว่าตกเป็นเหยื่อรวม 36 คน ครั้งแรกเหตุเกิดเมื่อปลายปี 2563 จนถึงปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกถูกปลอมไลน์ กลุ่มที่ 2 ถูกบังคับเสพยา และกลุ่มที่ 3 ถูกข่มขืนชิงทรัพย์ โดยเฉพาะคดีข่มขืนชิงทรัพย์มาแสดงตัวแล้ว 10 คน คน แจ้งความไว้ 5 คน และลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี 1 คน และ สน.เตาปูน 1 คน ส่วนในพื้นที่ สน.บวรมงคล พบเหยื่อที่ถูกล่อลวงวันที่ 13 เม.ย. มีเหยื่อ 2 ราย สามารถติดต่อเตรียมแจ้งความ 1 ราย ส่วนผู้เสียหายรายที่ 3 ที่ถูกก่อเหตุวันเดียวกับ น.ส.พราว และ น.ส.ฝน สามารถติดต่อได้แล้ว แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะเข้าแจ้งความ


สำหรับเบาะแสล่าสุดพบว่าเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเด่นภูมิเข้ามาขอเงินพ่อบุญธรรมในซอยจรัญสนิทวงศ์ 68 ก่อนรีบนั่งรถแท็กซี่ออกไป ตลอดการหลบหนี นายเด่นภูมิจะปิดโทรศัพท์มือถือ เวลาจะติดต่อใครจะใช้โทรศัพท์มือถือของเพื่อนที่ตัวเองไปหา นอกจากนี้นายเด่นภูมิยังมีพฤติกรรมปลอมเฟซบุ๊กเพื่อจะเลือกเหยื่อ โดยมักเลือกคนที่มีรถยนต์ เพื่อสะดวกในการหลบหนีและเดินทาง ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่นายเด่นภูมิใช้หลบหนี คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย