สุราษฎร์ธานี 10 พ.ค. – คดีอุ้มฆ่านักธุรกิจค้าหอยคนดังใน อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นักประดาน้ำเร่งค้นหาร่างในทะเลหมู่เกาะอ่างทอง เป็นวันที่ 2 และจ่อออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ วันนี้ ประมาณ 10 ราย
ความคืบหน้าการหายตัวไปของนายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี นักธุรกิจค้าขายหอยคนดังของ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ขณะออกไปดื่มสุรากับเพื่อน ที่ศาลาข้างบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่คืนวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยพบรองเท้าแตะ รอยคราบเลือดลากเป็นทางยาว จากศาลาไปบนถนนหมู่บ้าน ระยะทางกว่า 60 เมตร รวมทั้งรอยเลือดบนถนนหน้าวัดตะกรบ ร่องรอยการถูกชนเสาเขตวัดและเสาไฟฟ้าหักโค่น ห่างจากจุดที่พบคราบเลือดประมาณ 3 กิโลเมตร จนนางจินดาหรา วศินทรัพย์ ภรรยา ต้องไลฟ์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 พ.ค.) ตำรวจ พร้อมนักประดาน้ำ ได้ลงเรือตำรวจน้ำออกทะเลค้นหาตามคำให้การของผู้ร่วมก่อเหตุ เป็นวันที่ 2 หลังระบุว่าได้นำร่างนายโกศลไปโยนทะเล บริเวณเกาะว่าวใหญ่ เขตติดต่อกับหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย หลังวานนี้ (9 พ.ค.) มีการดำน้ำค้นหาแล้วกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบร่าง
ขณะที่กำลังทีมสืบสวนอีก 1 ชุด นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเรือต้องสงสัยที่คาดว่าขนย้ายร่างนายโกศล ลงเรือไปทิ้งในทะเลอย่างละเอียด โดยเก็บตัวอย่างรอยคราบเลือดภายในเรือ เพื่อตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงเกาะติดในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตำรวจได้สอบปากคำพยานกว่า 20 ปาก นำมาเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จนทราบตัวผู้ร่วมก่อเหตุหรือผู้ต้องสงสัยรวม 10 คน เตรียมขอหมายจับต่อศาลจังหวัดไชยา ในวันนี้ สำหรับประเด็นการอุ้มฆ่าครั้งนี้ ทางทีมสอบสวนให้น้ำหนักเรื่องความขัดแย้งของ 2 ตระกูล ที่มีความขัดแย้งกันมานานกว่า 15 ปี เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล จนนำไปสู่การล้างแค้นกันเอง และมีการดื่มน้ำสาบานที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เมื่อปี 2550 และทั้ง 2 ฝ่าย ยอมยุติไปช่วงหนึ่ง และเพิ่งจะมีการล้างแค้นกันอีก โดยก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา นายโกศล เคยถูกลอบยิงมาหลายครั้งแล้ว ครั้งหนักสุดถูกลอบยิงที่เกาะพะงัน ทำให้เสียดวงตาไป 1 ข้าง และระวังตัวมาตลอด จนมาเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ถูกยิงก่อนอุ้มฆ่าหายไปอย่างไร้ร่องรอย
สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้านี้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 2 ราย คือ นายเจน และนายแนค โดยนายเจน ยอมรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกนำศพนายโกศลที่ถูกยิงเสียชีวิต ใส่ท้ายรถนำไปฝังในป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี หมู่ที่ 5 ต.พุมเรียง อ.ไชยา พื้นที่เขตติดต่อกับที่ดินของผู้ร่วมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบไฟแช็ก และธนบัตร ฉบับละ 100 บาท มีรอยคล้ายหยดเลือดติดอยู่ จึงเก็บส่งตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของนายโกศล อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบร่างนายโกศลแต่อย่างใด ซึ่งนายเจน ได้ยืนยันกับ พล.ต.อ.สุชาติ ว่า เมื่อคืนวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 หลังก่อเหตุยิงนายโกศลเสียชีวิต นำศพมาฝังที่นี่จริง โดยได้ร่วมกับพวกอีก 3 คน เป็นผู้นำศพใส่ท้ายกระบะมา โดยไม่มีอะไรห่อศพ จึงคาดว่าศพอาจจะถูกเคลื่อนย้ายออกจากจุดดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาตรวจพิสูจน์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในการเข้าตรวจค้นครั้งล่าสุด ได้มีการนำรถแบ็กโฮมาขุดทรายและดินบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งมีการเก็บตัวอย่าง และได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กระจายค้นหาบริเวณใกล้เคียง ซึ่งตรวจสอบบริเวณปากทางเข้าจุดที่พบหลุมขนาดใหญ่นั้น เจ้าหน้าที่พบรอยเลือด แต่ไม่พบร่างนายโกศล ส่วนนายแนค ผู้ต้องสงสัยอีกคน รับว่าเป็นคนนำศพไปทิ้งทะเล
ต่อมาตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ ตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน บห 3735 สุราษฎร์ธานี ที่จอดอยู่ในอู่และร้านแต่งรถชื่อดังเมืองสุราษฎร์ธานี โดยรถคันดังกล่าวมีร่องรอยการชน ด้านหน้ารถข้างซ้ายพังยับ หม้อน้ำแตก สอบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวมีนายโจ้ หนึ่งในทีมอุ้มนายโกศล เป็นผู้ขับขี่ ได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้า หลังจากนำร่างนายโกศลเปลี่ยนถ่ายไปใส่รถอีกคัน ขณะที่นายโจ้ ขับรถคันดังกล่าวกลับเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี รถเกิดเครื่องน็อกดับใน อ.ท่าฉาง จึงเรียกรถยกไปรับมาเข้าอู่ โดยนายโจ้ได้รับบาดเจ็บ และได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว. – สำนักข่าวไทย