ออกกฎเหล็กเพิ่ม มัสยิดที่เปิดให้ละหมาดวันฮารีรายอ

ปัตตานี 10 พ.ค.-คณะกรรมการอิสลามออกกฎเหล็กเพิ่ม มัสยิดที่เปิดให้ละหมาดวันฮารีรายอ พร้อมเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกล็อกดาวน์

หลังจากที่ทางทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้ประชุมร่วมกัน พร้อมลงมติให้ทางมัสยิดสามารถทำการละหมาดเนื่องในวันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตริ ที่ใกล้จะมาถึงนี้ ได้นั้น ทำให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลว่า หากมีการป้องกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจทำให้มีการติดเชื้อในหมู่ผู้เข้าร่วมละหมาดได้ ดังนั้น ทางคณะกรรมการอิสลามได้ออกมาตรการเพิ่มเติม พร้อมทั้งออกประกาศของทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ให้มัสยิดที่เปิดให้มีการละหมาดได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ได้แก่


  1. ให้กรรมการอิสลามประจำมัสยิด ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เพื่อวางมาตรการร่วม
  2. ให้ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิด
  3. ให้จัดเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้ที่บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด
  4. ให้ทำความสะอาดมัสยิดก่อนและหลังการละหมาด และไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเท
  5. งดใช้บ่อน้ำ หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน และให้จัดทำเครื่องหมายจุดละหมาด โดยเว้นระห่างระหว่างแต่ละจุด 1 – 2 เมตร

สำหรับผู้ที่เดินทางมาละหมาดเนื่องในวันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตริ จะต้องมีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดดังนี้
1.ให้อาบน้ำละหมาดจากที่บ้าน

  1. ให้ใช้ผ้าปูละหมาดส่วนตัว โดยนำมาจากที่บ้าน
  2. ให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ทางมัสยิดเตรียมไว้
  3. ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ
  4. งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ และสวมกอด
  5. เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว งดไปร่วมละหมาด
  6. ผู้ที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้งดการร่วมละหมาด
    โดยให้ทางมัสยิดและผู้ที่เดินทางมาร่วมละหมาดในวันดังกล่าว ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 205 ราย ขณะที่พื้นที่ ชุมชน บ.บือติงตันหยง ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งเดียวในจังหวัดปัตตานี ที่ถูกล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ธารน้ำใจจากหน่วยงานต่าง ๆ และชาวบ้านในพื้นที่ ยังคงหลั่งไหลเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ ได้มีตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำปัตตานี ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจกับประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมสมทบช่วยเหลือเบื้องต้นโดยมอบ ข้าวสาร จำนวน 10 กระสอบ โดยมอบผ่านอีหม่ามประจำมัสยิดบือติงตันหยง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องในพื้นที่ จำนวน 250 ครัวเรือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมทั้งร่วมกันขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ผ่านพ้นโดยเร็ว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ