รวบหนุ่มหลอกซื้อทองคำ 200 บาท

ฉะเชิงเทรา 8 พ.ค. – ตำรวจกองปราบฯ จับกุมชายอายุ 30 ปี ตุ๋นซื้อทองแท่ง น้ำหนัก 200 บาท ถ่ายสลิปโอนเงินปลอมให้ผู้เสียหาย สูญเงินกว่า 5 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติมีหมายจับติดตัวเพียบ


ตำรวจกองปราบจับกุมนายวศิน อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 701/2564 ลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”

โดยผู้ต้องหามีหมายจับในคดีฉ้อโกงอีก 5 หมาย ทีมข่าวสำนักข่าวไทยตรวจสอบพบทั้ง 5 คดี เป็นความผิดฐานฉ้อโกงทั้งสิ้น โดยเป็นหมายจับในปี 2559 จำนวน 1 คดี ปี 2563 จำนวน 4 คดี และล่าสุดคือปี 2564


1.หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.930/2559 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
2.หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.532/2563 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
3.หมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.222/2563 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2563 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารราชการปลอม และปลอมและใช้เอกสารปลอม”

  1. หมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่ จ.157/2563 ลงวันที่ 15 กันยายน 2563 ในความผิดฐาน “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่ไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และออกเช็คไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึ่งให้ใช้ได้นั้น, ให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึ่งใช้ได้ตามเช็คนั้น และธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้น”
  2. หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.374/2563 ลงวันที่ 24 กันยายน 2563 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น”

โดยตำรวจกองปราบจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

ผู้ต้องหาก่อคดีครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา โดยตำรวจกองปราบฯ ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 มีคนร้ายติดต่อมายังบริษัทของผู้เสียหายผ่านช่องทางอีเมล โดยติดต่อมาซื้อทองคำแท่ง ซึ่งรายละเอียดอีเมลแจ้งว่าต้องการซื้อทองคำแท่ง น้ำหนักแท่งละ 5 บาท จำนวน 10 แท่ง และทองคำแท่งน้ำหนักแท่งละ 1 บาท จำนวน 150 แท่ง รวมน้ำหนักทองคำทั้งสิ้น 200 บาท มูลค่ารวมเป็นเงิน 5,285,515 บาท


ผู้ต้องหาได้ให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือสำหรับติดต่อซื้อขายทองคำไว้กับบริษัทผู้เสียหาย หลังจากนั้นพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ตามที่คนร้ายได้ให้ไว้ โดยมีผู้รับสายชื่อ นายพิเชษฐ์ อ้างว่าต้องการซื้อทองคำแท่งดังกล่าวไปแจกลูกค้า และขอซื้อในนามบุคคลธรรมดา

ต่อมาวันที่ 29 เมษายน 2564 คนร้ายได้ส่งรูปภาพใบนำฝากเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุฝากเงินเข้าบัญชีบริษัทผู้เสียหายเป็นเงิน 5 ล้านกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินค่าทองคำแท่งที่คนร้ายตกลงซื้อขายกับบริษัทผู้เสียหาย เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทผู้เสียหายตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่ามียอดเงินดังกล่าวเข้ามายังบัญชีบริษัทจริง จึงได้แจ้งให้ทางบริษัทจัดส่งทองคำแท่งให้กับคนร้าย

กระทั่งวันที่ 30 เมษายน 2564 บริษัทผู้เสียหายได้ตรวจสอบยอดเงินค่าทองคำแท่งจำนวน 5 ล้านกว่าบาทอีกครั้ง กลับพบว่าไม่มียอดเงินดังกล่าวอยู่ในบัญชีของบริษัท เมื่อตรวจสอบไปทางธนาคารจึงพบว่ายอดเงินดังกล่าวไม่ได้เป็นการฝากเงินสดเข้าบัญชีตามใบนำฝากเงินที่คนร้ายส่งมาให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายตรวจสอบแต่อย่างใด เป็นเพียงการฝากเงินโดยใช้เช็คธนาคารออมสิน ทำรายการฝากเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 เวลา 09.51 น. และเช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจาก “บัญชีปิดแล้ว” ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในภายหลังที่บริษัทมาตรวจสอบยอดเงินจึงไม่พบยอดเงินดังกล่าว ทางบริษัทจึงได้ตรวจสอบใบนำฝากเงินที่คนร้ายส่งมาให้อีกครั้งโดยละเอียด จึงพบว่าใบนำฝากเงินดังกล่าวมีการปลอมแปลง เพื่อนำมาแสดงต่อบริษัทผู้เสียหาย เป็นเหตุให้บริษัทผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีเงินเข้าบัญชีจริง เมื่อบริษัทผู้เสียหายทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงมาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ให้สืบสวนและดำเนินคดีกับคนร้าย

ตำรวจกองปราบปรามจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบถิ่นที่อยู่ และระบุตัวคนร้าย คือนายวศิน ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหากำลังเดินทางด้วยรถยนต์ บนถนนหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จึงนำหมายค้นศาลจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจค้นที่พักอาศัยของนายวศิน ที่โครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี เพื่อตรวจยึดของกลาง และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด นำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]