โผล่อีก! เหยื่อตำรวจ ตชด.บุกจับยาเสพติด รีดเงิน 5 หมื่น แลกปล่อยตัว

จันทบุรี 28 เม.ย.- โผล่อีกเหยื่อตำรวจ ตชด. บุกจับยาเสพติด รีดเงิน 50,000 แลกปล่อยตัว เข้าร้องขอความเป็นธรรม รักษาการผู้การตำรวจภูธรจันทบุรี โอดโดนมาแล้ว 4 ครั้ง สูญเงินกว่าแสนบาท


ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี นายเล็ก นามสมมุติ อายุ 50 ปี ชาวบ้านอำเภอท่าใหม่ จันทบุรี อาชีพทำสวน ได้พร้อมกับครอบครัว เดินทางเข้าพบกับ พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม

หลังจากตกเป็นเหยื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจ ตชด.นอกเครื่องแบบ บุกจับตัวในคดียาเสพติด ก่อนมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยถูกกระทำมาแล้ว 4 ครั้ง เสียเงินไปรวมกว่า 1 แสนบาท


โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน ได้มี นางนก นามสมมุติ ชาวบ้าน อำเภอนายายอาม ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ถูกกลุ่มตำรวจ ตชด.กลุ่มเดียวกัน จับตัวลูกสาวในคดียาเสพติดไปกักขัง ก่อนรีดเงิน 30,000 บาท แลกอิสรภาพ เข้าร้องทุกข์ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรมรายแรก ซึ่งในครั้งนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเดินหน้าตรวจสอบและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้

และในวันนี้ตำรวจภูธรจันทบุรี สอบถาม นายเล็ก นามสมมุติ เหยื่อรายที่ 2 บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เม.ย.64 เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะทำงานอยู่ในสวนพื้นที่อำเภอท่าใหม่ ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7 คน อ้างว่าเป็นตำรวจ ตชด. ใช้รถยนต์กระบะ ตอนเดียว และรถยนต์เก๋ง สีแดง เข้ามาทำการตรวจค้นจับกุมตัว ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาไอซ์ ไว้ในครอบครอง พร้อมกับนายเหน่ง นามสมมุติ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน และยังได้ยึดเอาอาวุธปืนมีทะเบียน ไปจำนวน 2 กระบอกพร้อมใบอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืนไปตรวจสอบ

จากนั้น กลุ่มชายดังกล่าวได้นำตัวไปควบคุมไว้สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง ในระหว่างควบคุมตัว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว


ต่อมานายเล็ก จึงได้โทรศัพท์ไปยืมเงินจากพี่สาว และได้ให้บุตรชายคนโต เป็นผู้ขับรถ นำเงินจำนวน 50,000 บาท มาส่งให้ยังสถานที่ถูกคุมตัว จากนั้น หนึ่งเจ้าหน้าที่จับกุม ได้บอกให้บุตรชาย นำเงินไปวางไว้ที่อ่างล้างหน้าของห้องน้ำ ภายในสถานที่ที่ถูกคุมตัว และมีเจ้าหน้าที่อีกคน เข้ารับเงินจำนวนดังกล่าวไป

ต่อมา ตนเองและนายเหน่ง จึงได้รับการปล่อยตัวพ้นจากการควบคุม แต่ยังมีอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกที่ถูกยึดไว้ ภายหลังจากการปล่อยตัว ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้โทรศัพท์ มาแจ้งให้ไปรับอาวุธปืนคืน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ไปรับเกรงจะเกิดปัญหาอีก

ทีมสืบสวนภูธรจันทบุรี ได้นำตัว นายเล็ก ผู้เสียหาย ไปตรวจสอบและชี้รูปบุคคลต้องสงสัย ที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ โดยทางตำรวจสืบสวนได้นำเอารูปของบุคคลอื่นๆ มาวางรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเป็นความเชื่อมโยงกับคดีของสองแม่ลูก ที่ถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวกันอุ้มรีดเงิน 30,000 บาท ซึ่งทางด้าน นายเล็ก ผู้เสียหาย ได้เดินไปหยิบรูปขึ้นมา 1 ใบ พร้อมกับยืนยันว่า เป็น 1 ในกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาจับกุมตัว ทั้งนี้ รูปใบดังกล่าวยังตรงกับข้อมูลของตำรวจสืบสวนว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง

ทั้งนี้ นายเล็ก ผู้เสียหาย ยังเปิดเผยให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้ เคยถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เปลี่ยนหน้ากันเข้ามาจับกุมตัวแล้ว รีดเงินรวมแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกถูกเรียกเงิน 20,000 บาท ครั้งที่สอง 20,000 บาท ครั้งที่สาม 30,000 บาท และครั้งนี้อีก 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ซึ่งตนเองถือว่าหนักสุด

ทางด้าน รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี เปิดเผยว่า จากปัญหาเรื่องที่ประชาชนร้องเรียน ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ในคดียาเสพติด เช่นคดีน้องไหม และคดียัดยาเสพติด หรือเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวนั้น ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนภูธรนายายอาม ที่ทำคดีของน้องไหม เหยื่อรายแรก และสั่งการทีมสืบสวนภูธรจังหวัด เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ให้มีความชัดเจน เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐชุดเดียวกัน ยืนยันจะให้ความจริงกระจ่าง และให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิกพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ตาวัย 71 ปี ขับรถพุ่งชนรถพ่วงเสียชีวิต

สมุทรสงคราม 13 ก.ค.-ตาวัย 71 ปี ขับเก๋งพุ่งชนกลางลำรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มขณะกำลังกลับรถ เสียชีวิตบนถนนสมุทรสงครามบางแพ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มกำลังกลับรถทำให้ตัวรถขวางถนน จังหวะนั้นรถเก๋ง ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วง เหตุเกิดบนถนนสมุทรสงครามบางแพ บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงบรรจุแก๊สหุงต้ม ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ม.9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่วงเวลา 19.18 น.วานนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบนายชาญพินิต ส่งชัย อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 5 นาที กว่าจะนำร่างนายชาญพินิต ออกมาและพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่นายชาญพินิต เสียชีวิตแล้ว ใกล้กันพบรถพ่วง 22 ล้อ ลูกพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดขวางถนนในลักษณะกำลังกลับรถ บริเวณล้อหลังรถพ่วงมี 3 เพลา รวม 12 ล้อ […]

เตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง

13 ก.ค. – ตำรวจเตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง เข้าข่ายยักยอกเงินวัด โอนให้สีกา ก. หรือไม่ พบเจ้าอาวาสหนึ่งใน 4 วัด โอนกว่า 1 ล้านบาท ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกา ก. จากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบวัดที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง 4 วัด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่และบัญชีวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเงินที่โอนให้สีกา ก. เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด หลังพบว่าพระบางรูปที่มีความสัมพันธ์กับสีกา ก. รวบอำนาจการบริหารจัดการเงินของวัดเพื่อให้ทำธุรกรรมได้สะดวก โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พบเส้นทางการเงินโอนให้สีกา ก. 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ส่วนพระรูปอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนสีกา ก. จะมีเจตนาในการข่มขู่รีดไถเงินจากพระหรือไม่ ทางการสอบสวนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนเพราะเป็นรสนิยมส่วนตัว โดยพุ่งเป้าเข้าหาพระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อมีความสัมพันธ์และนำเงินมาใช้ส่วนตัว […]