fbpx

โผล่อีก! เหยื่อตำรวจ ตชด.บุกจับยาเสพติด รีดเงิน 5 หมื่น แลกปล่อยตัว

จันทบุรี 28 เม.ย.- โผล่อีกเหยื่อตำรวจ ตชด. บุกจับยาเสพติด รีดเงิน 50,000 แลกปล่อยตัว เข้าร้องขอความเป็นธรรม รักษาการผู้การตำรวจภูธรจันทบุรี โอดโดนมาแล้ว 4 ครั้ง สูญเงินกว่าแสนบาท


ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี นายเล็ก นามสมมุติ อายุ 50 ปี ชาวบ้านอำเภอท่าใหม่ จันทบุรี อาชีพทำสวน ได้พร้อมกับครอบครัว เดินทางเข้าพบกับ พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม

หลังจากตกเป็นเหยื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจ ตชด.นอกเครื่องแบบ บุกจับตัวในคดียาเสพติด ก่อนมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยถูกกระทำมาแล้ว 4 ครั้ง เสียเงินไปรวมกว่า 1 แสนบาท


โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน ได้มี นางนก นามสมมุติ ชาวบ้าน อำเภอนายายอาม ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ถูกกลุ่มตำรวจ ตชด.กลุ่มเดียวกัน จับตัวลูกสาวในคดียาเสพติดไปกักขัง ก่อนรีดเงิน 30,000 บาท แลกอิสรภาพ เข้าร้องทุกข์ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรมรายแรก ซึ่งในครั้งนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเดินหน้าตรวจสอบและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้

และในวันนี้ตำรวจภูธรจันทบุรี สอบถาม นายเล็ก นามสมมุติ เหยื่อรายที่ 2 บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เม.ย.64 เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะทำงานอยู่ในสวนพื้นที่อำเภอท่าใหม่ ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7 คน อ้างว่าเป็นตำรวจ ตชด. ใช้รถยนต์กระบะ ตอนเดียว และรถยนต์เก๋ง สีแดง เข้ามาทำการตรวจค้นจับกุมตัว ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาไอซ์ ไว้ในครอบครอง พร้อมกับนายเหน่ง นามสมมุติ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน และยังได้ยึดเอาอาวุธปืนมีทะเบียน ไปจำนวน 2 กระบอกพร้อมใบอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืนไปตรวจสอบ

จากนั้น กลุ่มชายดังกล่าวได้นำตัวไปควบคุมไว้สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง ในระหว่างควบคุมตัว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว


ต่อมานายเล็ก จึงได้โทรศัพท์ไปยืมเงินจากพี่สาว และได้ให้บุตรชายคนโต เป็นผู้ขับรถ นำเงินจำนวน 50,000 บาท มาส่งให้ยังสถานที่ถูกคุมตัว จากนั้น หนึ่งเจ้าหน้าที่จับกุม ได้บอกให้บุตรชาย นำเงินไปวางไว้ที่อ่างล้างหน้าของห้องน้ำ ภายในสถานที่ที่ถูกคุมตัว และมีเจ้าหน้าที่อีกคน เข้ารับเงินจำนวนดังกล่าวไป

ต่อมา ตนเองและนายเหน่ง จึงได้รับการปล่อยตัวพ้นจากการควบคุม แต่ยังมีอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกที่ถูกยึดไว้ ภายหลังจากการปล่อยตัว ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้โทรศัพท์ มาแจ้งให้ไปรับอาวุธปืนคืน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ไปรับเกรงจะเกิดปัญหาอีก

ทีมสืบสวนภูธรจันทบุรี ได้นำตัว นายเล็ก ผู้เสียหาย ไปตรวจสอบและชี้รูปบุคคลต้องสงสัย ที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ โดยทางตำรวจสืบสวนได้นำเอารูปของบุคคลอื่นๆ มาวางรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเป็นความเชื่อมโยงกับคดีของสองแม่ลูก ที่ถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวกันอุ้มรีดเงิน 30,000 บาท ซึ่งทางด้าน นายเล็ก ผู้เสียหาย ได้เดินไปหยิบรูปขึ้นมา 1 ใบ พร้อมกับยืนยันว่า เป็น 1 ในกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาจับกุมตัว ทั้งนี้ รูปใบดังกล่าวยังตรงกับข้อมูลของตำรวจสืบสวนว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง

ทั้งนี้ นายเล็ก ผู้เสียหาย ยังเปิดเผยให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้ เคยถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เปลี่ยนหน้ากันเข้ามาจับกุมตัวแล้ว รีดเงินรวมแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกถูกเรียกเงิน 20,000 บาท ครั้งที่สอง 20,000 บาท ครั้งที่สาม 30,000 บาท และครั้งนี้อีก 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ซึ่งตนเองถือว่าหนักสุด

ทางด้าน รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี เปิดเผยว่า จากปัญหาเรื่องที่ประชาชนร้องเรียน ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ในคดียาเสพติด เช่นคดีน้องไหม และคดียัดยาเสพติด หรือเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวนั้น ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนภูธรนายายอาม ที่ทำคดีของน้องไหม เหยื่อรายแรก และสั่งการทีมสืบสวนภูธรจังหวัด เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ให้มีความชัดเจน เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐชุดเดียวกัน ยืนยันจะให้ความจริงกระจ่าง และให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.