ภูมิภาค 26 เม.ย.- หลายจังหวัดออกประกาศยกระดับเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” หากไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในที่สาธารณะจะมีโทษปรับ
ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ทั้งการเข้าไปในตลาด, ห้างสรรพสินค้า, ยานพาหนะสาธารณะ, อาคารขนส่งผู้โดยสาร, สถานีรถไฟ, สนามบิน, สถานที่ทำงาน และสถานที่สาธารณะต่างๆ หากไม่สวมหน้ากากอนามัยถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท รวมถึงเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามจัดงานเลี้ยงทุกรูปแบบ ศาสนพิธีต้องขึ้นอยู่กับการให้ปฏิบัติตามคำสั่งผู้ปกครองทางศาสนา และห้ามจัดงานรวมคนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป รวมทั้งงานศพสามารถมีผู้ร่วมงานไม่เกิน 50 คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้ (26 เม.ย.) ไปจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม
จับปรับ 2 หนุ่มฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย 500 บาท
ส่วนที่พระนครศรีอยุธยา หลังมีการประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยไปในที่สาธารณะ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) ช่วยบ่าย ปรากฏว่าผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ตำบลบางนางร้า อำเภอบางปะหัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้พบเห็นชาย 2 คนไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า บริเวณตลาดสดบางปะหัน จึงแสดงตัวจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน ก่อนถูกเปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาท
สำหรับภาพรวมอัพเดตล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ามี 48 จังหวัดที่ได้กำหนดบทลงโทษ หากฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ขณะออกจากบ้าน หรือไปสถานที่สาธารณะ อาทิ ภาคกลางและภาคตะวันออก จังหวัดกาญจนบุรี (เฉพาะตลาด ตลาดนัด ตลาดน้ำ), ปราจีนบุรี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, นนทบุรี รวมถึงกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันนี้ (26 เม.ย.) ได้เริ่มยกระดับป้องกัน “โควิด-19” เข้มข้นไปจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม โดยมีการสั่งปิดสถานที่ชั่วคราว 31 ประเภท อาทิ โรงมหรสพ สวนน้ำ สวนสนุก สวนสัตว์ สถานที่เล่นสเก็ต โต๊ะสนุกเกอร์ ลานโบว์ลิ่ง หรือ ตู้เกม ร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต สระว่ายน้ำสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุม พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดสาธารณะ สถานรับเลี้ยงเด็ก (ยกเว้นสถานเลี้ยงเด็กในโรงพยาบาลให้เปิดได้) สถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระให้เปิดได้) สนามมวย และโรงเรียนสอนมวย สนามม้า ศูนย์พระเครื่อง สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกเสริมความงาม สถานเสริมความงาม และคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม) สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า สนามแข่งขันทุกประเภท สถานที่แสดงมหรสพ ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ 11.00-21.00 น. ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัด ซอย แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน สนามกีฬาทุกประเภท ไม่มีการเล่น และการแข่งขันทุกประเภท สวนสาธารณะ ลานพื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬาลานกีฬา ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ 05.00-22.00 น. รวมถึงห้ามจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ การเข้าค่าย การถ่ายภาพยนตร์ หรือรายการโทรทัศน์ หรือกิจกรรมทางศาสนา การปฏิบัติธรรม การพบปะญาติที่เกินกว่า 20 คน
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้ออกประกาศเรื่องให้ประชาชนในพื้นที่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก ผู้ใดฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 20,000 บาท.-สำนักข่าวไทย