นครสวรรค์ 22 เม.ย.-รพ.รับไปรักษาแล้ว ด.ช.อ้วน หนัก 200 กก. อายุ 13 ปี พบชีวิตสุดอาภัพ แม่เสียชีวิตตั้งแต่ 3 ขวบ ป่วยออทิสติก พูดไม่ได้ ทุกวันนี้ต้องนั่งหลับ เพราะนอนไม่ได้ หายใจผิดจังหวะ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของเด็กชายน้ำหนัก 200 กิโลกรัม และมีอาการทางจิตเวช พูดไม่ได้ หรือ ด.ช.อ้วน วัย 13 ปี อยู่ที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เมื่อไปถึงไปพบนายเฉลียว แจ่มประแดง อายุ 80 ปี ตาของน้องอ้วน อยู่กันตามลำพังเพียง 2 คนเท่านั้น และพบว่า ส่วนใหญ่ ด.ช.อ้วน จะต้องมาใช้ชีวิตประจำวันในแบบเปลือยกายอยู่ในเพิ่งไม้เก่าบริเวณข้างบ้าน เพราะต้องให้ตาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ด.ช.อ้วน ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทั่วไป โดยนอกจากเจ้าตัวจะป่วยพิการพูดไม่ได้ รวมถึงมีน้ำหนักตัวมากแล้ว เวลาจะนอนยังต้องใช้วิธีการนั่งหลับแทนด้วย เพราะหากนอนในท่าเหยียดตัวตรง จะทำให้มีปัญหากับระบบหายใจติดขัด อีกทั้งการจะเดินเหินไปไหน ก็ไปได้ไม่ไกลมาก คุณตาต้องคอยนำสายยางมาฉีดน้ำรดตัวให้ ด.ช.อ้วน อยู่บ่อยครั้ง เพราะเจ้าตัวมีอาการร้อนง่าย
จากการสอบถาม นายบุญเลิศ ฉ่ำเสนาะ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นตาเขย ของ ด.ช.อ้วน และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อาศัยอยู่บ้านใกล้กัน เล่าว่า ชีวิตของ ด.ช.อ้วน น่าสงสาร เพราะต้องกำพร้าแม่มาตั้งแต่วัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งสมอง ส่วนผู้พ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ จนกระทั่ง เริ่มเข้าสู่วัย 4 ขวบ ด.ช.อ้วน เริ่มมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว เพราะกินเยอะมาก โดยสมัยนั้นจะกินข้าวจานโตๆ 2 จานต่อ 1 มื้อ รวมถึงกินขนม และนมถึงวันละ 4-5 กล่องด้วย จึงทำให้ ด.ช.อ้วน มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเป็นผลมาจากตาและยายไม่สามารถขัดใจ ด.ช.อ้วนได้ เพราะหากไม่ตามใจให้ ด.ช.อ้วน ได้กินแบบนี้ในแต่ละวัน ก็จะออกอาการเอะอะโวยวาย และอาละวาดอยู่ตลอด จนกระทั่ง 3-4 ปีหลังสุด ด.ช.อ้วน กลายเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวเกินกว่า 200 กิโลกรัม และต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก นอกจากนี้เจ้าตัว มีปัญหาทางจิต ตากับยายต้องคอยพา ด.ช.อ้วน ไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการทางจิตเวช โดยใช้สิทธิบัตรทอง และบัตรคนพิการ แต่ต่อมาในระยะหลัง ด.ช.อ้วน ไม่ยอมไปรักษาเพราะเขาไม่สามารถนั่งในรถได้ตามปกติ ต้องนั่งท้ายกระบะ จึงทำให้เดินทางลำบาก
ความอาภัพของน้องยังไม่หมด เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ยายของ ด.ช.อ้วน ก็ต้องมาเสียชีวิตไปอีกคน ด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ จึงทำให้ขณะนี้ ตา และด.ช.อ้วน เดือดร้อนหนัก เนื่องจากเงินไม่พอใช้จ่าย และต้องไปหยิบยืมญาติพี่น้องมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ
ล่าสุดหลังมูลนิธิมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำเรื่องราวของน้องไปโพสต์ขอความช่วยเหลือ และประสานผู้ว่าราชการ จ.นครสวรรค์ ไปดูแล เบื้องต้น มีประชาชนโอนเงินมามอบให้กับตาและน้องอ้วนแล้วกว่า 1 ล้านบาท โดยผู้ว่าฯ นครสวรรค์ ได้มอบหมายให้ นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าฯ นครสวรรค์ เข้าเยี่ยม ด.ช.อ้วน จนกระทั่งบ่ายวันนี้ (22 เม.ย.) สามารถส่งตัวน้องอ้วนเข้ารับการรักษาที่รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ เป็นที่เรียบร้อย โดยแนวทางการรักษาแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1. ดูแลเรื่องสุขภาพ ควบคุมการรับประทานอาหารเพื่อให้น้ำหนักลดลง จากนั้นจะดูด้านจิตเวช ควบคุมเด็กไม่ให้มีอารมณ์ฉุนเฉียว เวลาหิว ในช่วงลดน้ำหนัก และ 3. เมื่อควบคุมอารมณ์ได้แล้ว จะให้ด.ช.อ้วน เข้ารับการดูแลจากศูนย์ดูแลออทิสติก ของ จ.นครสวรรค์ ส่งนักกายภาพ ช่วยเหลือด้านการกระตุ้นและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน
สำหรับเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคกว่า 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือด.ช.อ้วน นั้น นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าฯ นครสวรรค์ ได้มอบหมายให้ทางอำเภอและทางเทศบาล เข้าไปดูแลในเรื่องการเบิกจ่าย เพื่อให้ใช้ประโยชน์ต่อด.ช.อ้วนสูงสุด
สำหรับใครที่อยากจะช่วยเหลือ ให้กำลังใจน้องสามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชี นายสำเริง แจ่มประแดง ธนาคารกรุงไทย สาขาสลกบาตร เลขบัญชี 627-0-50101-6.-สำนักข่าวไทย