ผู้ป่วย รพ.สนามเชียงใหม่ ทยอยเดินทางกลับบ้าน

ภูมิภาค 21 เม.ย. – ผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ ทยอยเดินทางกลับบ้านอีกกว่า 30 คน แต่ยังต้องกักตัวสังเกตอาการที่บ้านอีกจนครบ 28 วัน


ผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ บริเวณศูนย์ประชุมและจัดแสดงนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ที่มีอาการดีขึ้น ทยอยเดินทางกลับบ้านได้อีกกว่า 30 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน โดยเจ้าหน้าที่ให้ออกทางประตูหลังโรงพยาบาล และฉีดพ่นแอลกอฮอล์ล้างมือ ผ่านจุดคัดกรอง ก่อนออกจากเขตควบคุม ไปขึ้นรถยนต์ส่วนตัวขับกลับบ้าน แต่ยังให้กักตัวสังเกตอาการที่บ้านอีกจนครบ 28 วัน ขณะเดียวกันยังมีผู้ป่วยรายใหม่ทยอยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยคลัสเตอร์สถานบันเทิงที่ผู้ป่วยนำไปแพร่เชื้อบุคคลในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ยังมีกำลังใจดี และชาวเชียงใหม่ยังคงเป็นกำลังใจให้กับนักรบสีขาวด่านหน้าสู้ๆ หลายคนบอกคิดถึงลูกและสามี ขณะที่โรงพยาบาลเชียงใหม่แห่งที่ 1 ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกจำนวน 1,207 ราย กลับบ้านได้แล้วกว่า 100 ราย รับได้อีก 89 ราย แยกเป็นชาย 55 ราย หญิง 34 ราย

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งมาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด ซึ่งมีด้วยกันทั้งสิ้น 17 จังหวัด เมื่อเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันที และต้องสแกน CM-CHANA และกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน พร้อมกับการบันทึกรายละเอียดประจำวัน เพื่อประเมินตนเองตามแบบ ชม.3 ส่วนกรณีที่มีความจำเป็นในการเดินทางออกไปจากที่พักอาศัย ให้แสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาอนุญาตให้เดินทางออกจากที่พักอาศัยได้ ซึ่งจะมีเอกสารให้


ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นนอกเหนือจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด เมื่อเข้ามาใน จ.เชียงใหม่ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับแจ้งจากระบบ CM-CHANA และบุคคลกลุ่มนี้ยังต้องสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาในโรงพยาบาล

ส่วนผู้ประกอบการโรงแรม หรือสถานที่พักต่างๆ ที่เปิดให้บริการแก่ผู้เดินทางเข้ามาใน จ.เชียงใหม่ เป็นการชั่วคราว จะต้องเก็บข้อมูลประวัติของผู้เดินทางที่เข้ามาพัก รวบรวมรายชื่อผู้เดินทางเข้าพัก แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อด้วย

ด้านสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ นำรถชีวนิรภัยพระราชทานไปจอดบริเวณหน้าสำนักงานหมู่บ้านชุมชนเคหะหนองหอย ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีชาวบ้านพากันแห่ไปเข้าคิวลงทะเบียนขอตรวจจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้พบมีชาวบ้านในชุมชนเป็นผู้ป่วย ทำให้ชาวบ้านในชุมชนเป็นกลุ่มเสี่ยง ทำให้พากันกังวล เดินทางมาตรวจกันตลอดทั้งวันมากกว่า 200 คน โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่มาจัดระเบียบ เว้นระยะห่าง ซึ่งจะทราบผลใน 24 ชั่วโมง ขณะที่วันนี้ยังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ที่ทยอยเข้ารายงานตัวที่โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ อีก 99 ราย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมีทั้งชาวบ้านในชุมชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสม 2,582 ราย กลับบ้านได้แล้ว 134 ราย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามทั้ง 3 แห่ง และโรงพยาบาลของรัฐจำนวน 2,448 ราย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน