อุทัยธานี 19 เม.ย.-สาวใหญ่สุดแสบ หลอกหนุ่มใหญ่ใช้หนี้ให้ แล้วยอมไปอยู่กินฉันสามีภรรยาได้ 2 เดือน จากนั้นแอบนำบัตรเอทีเอ็ม ไปกดเงินจากธนาคาร ขโมยสร้อยคอและแหวนทองคำ หนีไป
นายสนอง กะปุก อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 บ้านเนินมะค่า ตำบลน้ำรอบ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ถูกสาวใหญ่วัย 52 ปี ซึ่งอยู่กินฉันสามีภรรยาได้ 2 เดือน ขโมยสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และแหวนทองหนัก 2 สลึง เงินสด 10,000 บาท พร้อมแอบนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน 11,000 บาท แล้วหนีหายไป
นายสนอง เล่าย้อนเรื่องราวความรักที่มีอายุเพียง 2 เดือนว่า ตนเป็นโสดมาหลายปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อประมาณเดือนธันวาคม เพื่อนบ้านแนะนำให้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งทางเฟซบุ๊ก ชื่อจันทิน ตนเองเห็นรูปก็ชอบ จึงเดินทางไปพบ ขณะนางจันทิน รับจ้างตัดอ้อยอยู่ที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี จากนั้นชักชวนนางจันทิน ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านของตน แต่เธออ้างว่าติดค้างเงินเถ้าแก่ 30,000 บาท ต้องรับจ้างตัดอ้อยใช้หนี้ ตนจึงเสนอใช้หนี้ให้ แล้วพามาอยู่ที่บ้านฉันสามีภรรยา
มีอยู่วันหนึ่ง ตนใช้หลานสาวไปกดเงิน นางจันทิน ได้ยินจึงขอไปกับหลาน จึงรู้รหัสบัตรเอทีเอ็ม ต่อมานางจันทิน ขอยืมสร้อยคอ 1 บาท และแหวนทอง 2 สลึง อ้างว่าจะใส่ถ่ายรูปที่หน้าบ้าน เพื่อลงเฟซบุ๊ก เมื่อถ่ายรูปเสร็จ ก็นำมาคืน ตนจึงเก็บใส่กระเป๋าคาดเอวไว้ที่หัวเตียง กระทั่งวันที่ 3 มีนาคม นางจันทิน อ้างว่าไปงานเลี้ยงที่บ้านเถ้าแก่ไร่อ้อยที่อำเภอบ้านไร่ จะกลับบ้านช่วงบ่าย ตนก็รอจนค่ำ นางจันทินก็ไม่กลับ โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง จึงเริ่มรู้สึกผิดปกติ ไปเปิดกระเป๋าคาดเอว ที่วางไว้บนหัวเตียง ปรากฏว่าทั้งสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และแหวนทองหนัก 2 สลึง และเงินสดอีก 10,000 บาท หายไป ซ้ำเงินยังถูกกดออกจากบัญชีอีก 11,00 บาท จึงเข้าแจ้งความตำรวจ.-สำนักข่าวไทย