ถนนสายเอเชียรถหนาแน่นทุกช่องทาง

ภูมิภาค 10 เม.ย. – ถนนสายเอเชียรถแน่นทุกช่องทาง หลังประชาชนแห่เดินทางไปภาคเหนือ-ภาคอีสาน ด้านตำรวจทางหลวงเร่งระบายรถ คาดค่ำนี้ติดหนัก แนะใช้ถนนสาย 33 อ่างทอง-สุพรรณบุรี


ส่วนสภาพการจราจรบนถนนสายเอเชียพบว่าแน่นทุกช่องทาง เช่นที่เห็นอยู่นี้เป็นสภาพจราจรช่วงรอยต่อ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านต่างระดับอ่างทองไปจนถึงเขต อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมามีปริมาณรถหนาแน่นทุกช่องทาง รถยนต์ใช้ความเร็วได้เพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และติดสะสมเป็นบางช่วง เนื่องจากช่องทางซ้ายบางช่วงมีรถบรรทุกจอดพักรถ ทำให้รถที่ใช้ช่องทางด้านซ้ายและไหล่ทางต้องเบี่ยงช่องทางการจราจร ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของรถจนติดขัดสะสม สำหรับผู้ที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือในช่วงเย็นและช่วงค่ำวันนี้ ตำรวจทางหลวงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ถนนสายเอเชีย โดยไปใช้ถนนสาย 33 อ่างทอง-สุพรรณบุรี ที่แยกป่าโมก มุ่งหน้าเข้าเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี เพื่อเข้าสู่ จ.ชัยนาท และไปบรรจบกับถนนสายเอเชียอีกครั้งแทน หรือใช้ถนนสาย 309 อ่างทอง-สิงห์บุรี สายเก่า ผ่าน จ.อ่างทอง เข้าสู่ จ.สิงห์บุรี และ จ.ชัยนาท จะได้รับความสะดวกมากกว่า

สายอีสาน ถนนมิตรภาพและถนนพหลโยธินขาออก จาก อ.หนองแค สู่ตัวเมืองสระบุรี รถเพิ่มปริมาณอย่างต่อเนื่อง ทำความเร็วได้ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สลับตัวหยุดนิ่งบางช่วงในตัวเมืองสระบุรี เพราะรถต้องเลี้ยวขวาขึ้นสะพานต่างระดับทำให้ติดยาว ตำรวจทางหลวงหินกองต้องเร่งระบายรถ พร้อมเปิดทางพิเศษบริเวณ กม.ที่ 87-92 เพื่อให้รถวิ่งคล่องตัวมากขึ้น


ส่วนเส้นทางถนนมิตรภาพมีปริมาณรถเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตำรวจทางหลวง 1 กองจังหวัดได้เปิดระบายทางพิเศษช่วง กม.17 อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถึง 43 เข้าเขต ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นคราชสีมา เพื่อเป็นการเร่งระบายรถขึ้น คาดว่าช่วงเย็นอาจมีประชาชนเดินทางอีกจำนวนมาก เพราะเป็นวันหยุดยาว ขณะเดียวกันเส้นทางบริเวณถนนมิตรภาพและพหลโยธิน มีจุดบริการประชาชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสระบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและมูลนิธิ คอยให้การบริการตลอดเส้นทาง

นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานจุดตรวจรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 ซึ่ง จ.ราชบุรี ได้บูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเปิดจุดบริการประชาชนบริเวณสี่แยกไฟแดง หรือแยกห้วยแร้ง ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งจุดนี้เป็นเส้นทางสายรองอยู่ในเขตชุมชน แต่ประชาชนใช้สัญจรจำนวนมาก เพราะเป็นสี่แยกที่สามารถเดินทางไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้ ขณะเดียวกันบริเวณดังกล่าวยังเป็นจุดก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

จากนั้นรองผู้ว่าฯ ราชบุรี ได้เดินทางไปยังจุดบริการประชาชน บริเวณหน้าโรงงานพีรับเบอร์ อ.บ้านโป่ง จุดนี้เป็นถนนเชื่อมต่อระหว่าง จ.ราชบุรี ไป จ.กาญจนบุรี ประชาชนใช้เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นช่วงโค้งของถนน หากรถใช้ความเร็วสูงจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงตั้งเป็นจุดเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยจุดบริการทั้ง 2 แห่งจะมีเจ้าหน้าที่จากฝ่ายปกครอง ตำรวจ สาธารณสุข อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จิตอาสา และมูลนิธิ คอยอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือประชาชนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564


ส่วนสภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ช่วงตั้งแต่หน้าสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จนถึงเขตตัวเมืองราชบุรี มีรถยนต์สัญจรหนาแน่น แต่สามารถเคลื่อนที่ได้เรื่อยๆ ทั้งนี้ ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางด้วยถนนเพชรเกษมไปยังภาคใต้ หากถึง จ.ราชบุรี ขอให้ใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองจะสะดวกกว่า เพราะช่วงสี่แยกเขางูกำลังดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแยก อาจไม่ได้รับความสะดวก

ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงานสภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ฝั่งขาล่องใต้ มุ่งสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่น และติดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อจอดรอสัญญาณไฟแดงบริเวณแยกต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงใช้ระบบควบคุมสัญญาณไฟด้วยมือ เพื่อเร่งระบายรถบนถนนเพชรเกษมสายหลักให้นานกว่าปกติ สลับกับถนนสายรองที่มีประชาชนในพื้นที่ใช้สัญจรข้ามไปมาระหว่างตลาดตัวเมือง และนอกชานเมือง ในขณะที่ตำรวจทางหลวงใช้รถติดสัญญาณไฟวับวาบๆ วิ่งสำรวจตามเส้นทางและคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเวลารถเกิดปัญหาติดขัด

นอกจากนี้ตำรวจจราจร สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ยังได้ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก เช่น หมวกกันน็อก ใบขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนแขวงทางหลวงประจวบฯ ได้ติดตั้งกาดเลนกั้นบริเวณร่องกลางถนน เพื่อลดความรุนแรงลงในจุดที่รถมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ป้องกันไม่ให้รถที่เกิดอุบัติเหตุตกลงไปชนกับต้นไม้ในร่องกลางถนนจนทำให้บาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต คาดว่าปีนี้จะมีอัตรายอดผู้เสียชีวิตลดจำนวนลงกว่าปีที่ผ่านมา และขณะนี้ยังไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ด้าน พ.ต.ท.รณภูมิ โกมลกิติสกุล สารวัตรจราจร สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษมขณะนี้มีปริมาณรถฝั่งขาล่องใต้จำนวนมาก แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้ตามจังหวะสัญญาณไฟ นอกจากนี้ตามยูเทิร์นจุดเสี่ยงต่างๆ ได้ดำเนินการปิดไปแล้วบางจุด และได้ดำเนินการก่อสร้างทางลอดใต้อุโมงค์ถนนเพชรเกษม เพื่อให้รถเล็กสามารถใช้เป็นเส้นทางข้ามถนน โดยหลีกเลี่ยงจากสายหลักเพื่อลดอุบัติเหตุ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จไปแล้วบางจุดที่รถสามารถวิ่งได้

สำหรับการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรใน 10 ข้อหาหลักตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะต้องมีกล้องวงจรปิดประจำตัว และมีกล้องวงจรปิดที่มองเห็นในภาพรวม ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเพื่อความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบ 3 อยากจะให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเดินทางไปในเส้นทางที่มีคนพลุกพล่าน และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิต หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ตามแต่ละข้อหา

เมื่อเวลา 12.45 น. บนถนนเอเชีย 41 ช่องทางขาล่องใต้ ในเขต จ.ชุมพร มีรถจำนวนมากเดินทางเข้าสู่ภาคใต้ ทำให้การจราจรบนถนนเอเชีย 41 ติดขัดอย่างหนัก รถทุกชนิดใช้ความเร็วได้ไม่มาก และติดขัดในจุดสี่แยกต่างๆ ตลอดเส้นทาง ตำรวจจราจรชุมพรหลายอำเภอ ตำรวจทางหลวงชุมพร ต้องระดมกำลังออกมาช่วยระบายรถ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีรถเดินทางลงสู่ภาคใต้ไม่มากนัก ซึ่งในช่วงเช้าปริมาณรถไม่มากนัก แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปหลังเที่ยง ปริมาณรถกลับทวีจำนวนมากขึ้น ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

ส่วนบริเวณสี่แยก อ.ละแม จ.ชุมพร ถนนเอเชีย 41 รอยต่อ จ.สุราษฎร์ธานี ที่กำลังมีการก่อสร้างทางยกระดับข้าม สี่แยกละแม ในช่องทางขาล่องใต้ มีการทดลองเปิดใช้สะพานข้าม แต่ด้วยความไม่พร้อมของผิวการจราจรและเครื่องหมายต่างๆ ทำให้รถขาล่องใต้ติดขัด ก่อนจะขึ้นสู่สะพานข้ามแยกละแมได้ และกว่าจะสามารถเดินทางผ่านสี่แยกละแมได้ต้องใช้เวลามากกว่า 30 นาที การจราจรติดขัดมากกว่า 5 กม. ทำให้ท้ายแถวของรถยาวเหยียด และไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมาอำนวยความสะดวกแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]