ซิ่งรถแหกด่านจนมุม ยิงใส่รถตร.ก่อนชิงจยย.หนี

อุดรธานี 4 เม.ย.- ชายหญิงซิ่งรถเเหกด่านจนมุมจอดรถหยุดทางพาดรถไฟ  เปิดฉากยิงใส่ตำรวจที่ขับตาม 9 นัด โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงจักรยานยนต์ชาวบ้านหลบหนี ค้นรถพบยาบ้า พร้อมอุปกรณ์เสพยา 


เมื่อคืนนี้ ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากตำรวจจราจรว่า มีรถเก๋ง สีขาว ทะเบียน 1กษ 7931 กรุงเทพมหานคร แหกชนด่านตรวจมาจากถนนมิตรภาพอุดร-หนองคาย ตรงบริเวณก่อนถึงทางลอดอุโมงค์ แล้วขับหนีเข้ามาในตัวเมืองอุดรฯ จนมุมจอดรถหยุดทางพาดรถไฟในซอยมิตรสว่าง 3 ชุมชนทุ่งสว่าง แล้วเปิดฉากยิงใส่รถตราโล่ของตำรวจจราจรที่ขับตามไล่มาจำนวนหลายนัด แล้วชิงรถ จยย.ของชาวบ้านหลบหนีไป โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีขาวของคนร้ายจอดอยู่ไม่สามารถขับต่อไปได้ เนื่องจากมีเสากั้นเอาไว้ ภายในรถ มีอาวุธปืนสั้น ขนาด 38 มม.จำนวน 1 กระบอก มีกระสุนปืนอยู่ในรังเพลิงอยู่ในกระเป๋าสายสีดำ พบยาบ้า 1 ถุง พร้อมอุปกรณ์การเสพยา นอกจากนี้ด้านหลังรถยังมีชุดแต่งใส่อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม.พร้อมลำกล้อง ปืนบีบีกันสั้น 1 กระบอก อาวุธมีด 1 เล่ม และอุปกรณ์ใช้ในการตกปลา 


ส่วนรถตราโล่ของตำรวจจราจรที่จอดอยู่ท้ายรถเก๋งแจ๊สสีขาวของคนร้ายมีรอยรูกระสุนปืนยิงเข้าที่กระเข้าฝากระโปรงรถ และกระจกหน้ารถประมาณ 9 นัด ซึ่งมีปลอกกระสุนปืนตกอยู่ที่พื้น 9 ปลอก โดยมี ด.ต.รุ่งเพชร สุดสนธิ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอีกคนที่ขับรถยนต์กระบะตราโล่ไล่ตามรถของคนร้ายมารอดตายอย่างหวิดหวุดจากที่คนร้ายยิงปืนใส่รถ เพเราะได้ปรับเบาะรถยนต์เอนนอนตอนที่คนร้ายเปิดประตูรถลงมาแล้วใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงใส่รถตราโล่หลายนัด ก่อนที่คนร้ายทั้งชายและหญิงได้วิ่งข้ามทางพาดรถไปยังอีกฝั่งเข้าไปในซอยหนองเหล็กซอย 4 และชิงรถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของชาวบ้านขับหลบหนีไป ส่วนผู้หญิงที่มาด้วยกับคนร้ายก็ได้วิ่งหลบหนีไปอีกทางในซอย ต่อมา พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ

ด.ต.รุ่งเพชร สุดสนธิ์ ผบ.หมู่งานจราจรสภ.เมืองอุดรธานี เผยว่า วันนี้ได้ตั้งด่านจุดตรวจก่อนถึงทางลอดอุโมงค์ ถนนอุดร- หนองคายขาเข้า มีรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีขาวขับชนกรวยแหกด่านหนีมา จึงขับรถตราโล่ไล่ตามรถคนร้ายเข้ามาในตัวเมืองอุดรฯ วนอยู่ 2-3 รอบ โดยผู้ชายเป็นคนขับ และมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างคนขับ จึงใช้ความระมัดระวังในการขับไล่ตาม เพราะคาดว่าต้องมีสิ่งผิดกฎหมายหรือมีอาวุธปืนด้วย อีกทั้งคนร้ายอาจจะไม่คุ้นเคยเส้นทาง แล้วขับเข้ามาในซอยแห่งนี้ ทำให้จนมุม เพราะเป็นทางรถไฟและไปต่อไม่ได้ แล้วคนร้ายที่เป็นชายลงรถมาใช้อาวุธปืนเปิดฉากยิงจำนวนหลายนัด หวังผลจะฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกน้องที่มาด้วยปรับเบาะรถให้เอนลง ทำให้ไม่สามารถจะยิงโต้ตอบคนร้ายได้เลย 

ในตอนนั้นคิดว่าตนอาจจะถูกกระสุนของคนร้าย เพราะคนร้ายยิงเข้ามาใส่รถ ตนจึงนึกถึงหลวงตามหาบัว หรือพระธรรมวิสุทธิมงคล ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด หรือวัดเกสรศีลคุณ ที่ตนพกตัวอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ จึงพูดขึ้นมาว่าขอให้บารมีของหลวงตาช่วยลูกด้วย


ด้านนายพีรพันธ์ จันทวงษ์  บอกว่า ขณะที่ขี่รถ จยย.กลับมาบ้านจอดไว้หน้ารั้วบ้านและติดเครื่องเอาไว้เดินลงไปเปิดรั้วบ้าน มีคนร้ายเป็นชายวิ่งมาในมือถืออาวุธปืนเอารถ จยย.ไป เห็นเขาถือปืนจึงไม่กล้าทำอะไร และคนร้ายก็ได้ขี่รถ จยย.หลบหนีไปหน้าปากซอย ส่วนผู้หญิงที่วิ่งตามคนร้ายมาก็วิ่งเข้าไปในซอยย่อยทะลุไปยังซอย 3

พล.ต.ต. พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจว.อุดรธานี เผยว่าการตรวจสอบสืบสวนหาตัวคนร้ายมั่นใจว่าพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ เพราะเนื่องจากเป็นรถใช้งาน และมีข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก พยานหลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุที่จะพิสูจน์ตัวบุคคลก็มีชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสืบทราบตัวบุคคลได้ส่วนคนร้ายจะเป็นเครือข่ายยาเสพติดหรือไม่นั้น ขณะนี้พบอุปกรณ์การเสพอยู่ในรถ ซึ่งจะเป็นเครือข่ายหรือแก๊งนั้นต้องมีการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง อาวุธปืนให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่ตีทะเบียนก่อนว่าเป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายไหม 

เบื้องต้นมีการสั่งการทางวิทยุในการแจ้งเหตุในเครือข่ายของ จ.อุดรธานี ติดตาม และรูปร่างของคนร้ายทั้งสองแล้ว และคงจะใช้แนวทางการสืบสวนพิสูจน์ทราบตัวบุคคลออกหมายจับเพื่อติดตามตัวคนร้าย โดยหากทราบตัวแล้วจะมีการออกหมายจับคนร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งเบื้องต้นตั้งข้อหายิงหรือกระทำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในระยะกระชั้นชิดระยะ 4 เมตรไม่เกิน 5 เมตร แล้วลักษณะยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 12 นัด ยิงใส่กระจกหน้าด้านคนขับ ยิงใส่กระจกด้านคู่บัดดี้ข้างคนขับ และยิงใส่ไฟหน้ารถให้ดับ ลักษณะนี้ชัดเจนที่จะตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย