พายุฤดูร้อนถล่มรพ. ย้ายผู้ป่วยวุ่น

เพชรบูรณ์ 31 มี.ค.- พายุพัดถล่มอาคารผู้ป่วย รพ.วิเชียรบุรี ต้องย้ายผู้ป่วยโกลาหล ผู้ป่วยย้ายไม่ทันรับเคราะห์ บาดเจ็บเพิ่ม


เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายพื้นที่ของ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลให้ต้นไม้ และกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ภายในโรงพยาบาลวิเชียรบุรี หักโค่น ล้มลงมา กระแสลมยังพัดกระหน่ำฝาผนังห้องผู้ป่วย ประตูบานเกล็ดหน้าต่าง และฝ้าเพดาน ของอาคารผู้ป่วยพังถล่มลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบช่วยกันอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในอาคารที่ปลอดภัยอย่างโกลาหล และมีผู้ป่วยที่อพยพไม่ทันได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระจกบาด จำนวน 2 ราย 

นายเชิดชัย คงจำนง หัวหน้าบริหารโรงพยาบาลวิเชียรบุรี เผยว่าเหตุการณ์ลมพายุและฝนพัดกระหน่ำมาทุกทิศทุกทาง ทำให้ตึกผู้ป่วยอาคารเมตตา สูง 5 ชั้น 114 เตียง บริเวณแผนกอายุรกรรมหญิง และแผนกศัลยกรรมชาย โดยเฉพาะบริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งมีผู้ป่วยอยู่จำนวน 6 เตียง ลมพัดฝาผนังห้องผู้ป่วยล้ม ทำให้กระจก ประตู บานเกล็ด แตกกระจาย ผ้าม่านปลิวฉีกขาด ฝ้าเพดานพังถล่มลงมา และทำให้ผู้ป่วยถูกเศษกระจกได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในอาคารอื่นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ถูกกระจกบาดที่ข้อมือได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 1 ราย โดยพายุฝนพัดกระหน่ำอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงได้สงบลง


ล่าสุดวันนี้ จากสำรวจความเสียหายพบว่าหอผู้ป่วยนอก ชั้น 2 และ ชั้น 3 พังเสียหาย หลายจุด ประเมินเบื้องต้น มูลค่าความเสียหายกว่า 100,000 บาท ด้านผู้ป่วยที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าถึงวินาทีที่ลมพายุพัดกระหน่ำฝาผนังห้องผู้ป่วยว่า ขณะที่ตนนอนอยู่ได้ยินเสียงมีคนหวีดร้อง และมีเสียงดังโครมตามมา พอลืมตามองดูก็เห็นฝ้าเพดานลอยหมุนอยู่ และหล่นลงมา ลูกเขยจึงมาช่วยนำตัวตนออกมา โชคดีที่ขยับเตียงออกมาทัน ไม่ถูกฝ้าเพดานลอยตกใส่ ขณะนั้นตนยอมรับว่าตกใจมาก ลุกวิ่งหนีก็ไม่ได้ เพราะตนยังป่วยอยู่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ 

ด้านนางละมาด รุ่งยิ้ม อายุ 51 ปี ชาวบ้านซับตะเคียน ต.วังใหญ่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ บอกว่าขณะที่ตนกำลังเฝ้าแม่ที่ป่วยอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร ได้เกิดพายุฝนและมีลมกระโซกแรง จังหวะนั้นตนหันไปมองเห็นลมพายุขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายกับงวงช้าง แล้วหมุนตรงมาบริเวณเตียงผู้ป่วยที่แม่ของตนนอนอยู่ ตอนนั้นตนมองไม่เห็นอะไรเลย มืดไปหมด ตนทำอะไรไม่ถูกได้แต่กอดแม่ที่ป่วยอยู่บนเตียงไว้แน่น ความรู้สึกตอนนั้นตนรู้สึกกลัวเหมือนใจจะขาด แต่ไม่กล้าหนีไปไหน ไม่กล้าทิ้งแม่ ทำได้แค่กอดแม่ไว้แน่น สักพักลมพายุก็สงบลง โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่ตนเกิดมาตนก็เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เป็นครั้งแรก.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง