ผัวเมีย “บ้านออมเบส” มอบตัวคดีฉ้อโกงกว่า 100 ล้าน

สงขลา 30 มี.ค.- ผัวเมีย เจ้าของกลุ่มออมเงินออนไลน์ “บ้านออมเบส” เข้ามอบตัว ยอมรับสารภาพฉ้อโกงจริง มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน ตำรวจคัดค้านการประกันตัว


กรณี น.ส.กรองทอง เกิดพุ่ม อายุ 35 ปี หรือเบส ซึ่งตั้งกลุ่มออมเงินออนไลน์กลุ่ม “บ้านออมเบส” ซึ่งมีลักษณะเดียวกับแชร์ออนไลน์ และมีชาวบ้านเข้าร่วมกลุ่มหลายร้อยคนสูญเงินนับร้อยล้านบาท จึงมาร่วมตัวเรียกร้องเงินคืนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วน น.ส.กรองทอง กับแฟนหนุ่มได้หลบหนีไปและที่ผ่านทั้งสองคน ส่งทนายมาเจรจากับผู้เสียหายและยอมจ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหายบางส่วน แต่ไม่เต็มจำนวน

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ น.ส.กรองทอง เกิดพุ่ม อายุ 31 ปี และนายธนสิทธิ์ เกิดพุ่ม อายุ 32 ปี สามี พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองสงขลาแล้ว โดยมี พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา รับมอบตัวและพาเข้าห้องสอบสวนทันที และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยเปิดเผยว่า ทั้งนางสาวกรองทองและนายธนสิทธิ์ เกิดพุ่ม ถูกดำเนินคดี “ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”


โดยคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว เฉพาะพื้นที่ จ.สงขลา มีผู้เสียหายทั้งหมด 348 ราย ที่มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน มูลค่าความเสียหายทั้งหมด 106 ล้าน โดยมีสถานีตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด 10 สถานี และทั้งสองคนถูกออกหมายจับออกเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ข้อหาที่แจ้งคือ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับสารภาพ ฉ้อโกงจริง พฤติการณ์คือ เมื่อเดือนกันยายน ปี 53 นางสาวกรองทอง เปิดเฟซบุ๊กหลอกลวงชักชวนประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา และหลายจังหวัดมาร่วมลงทุนออมเงิน เช่น ลงทุน 10,000 บาท 10 วัน ได้ผลตอบแทน 2,000 บาท หรือลงทุน 15,000 บาท 10 วัน จะได้ผลตอบแทน 6,000 บาท และจะหลอกไปเรื่อยๆจนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อ และเมื่อได้เงินมากขึ้นก็จะหนีไป

ทั้งนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายไปแล้วบางส่วน จำนวน 340 ราย เพื่อเป็นการชดใช้เงิน ซึ่งกระบวนการต่อจากนี้ก็จะมีการนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลภายใน 2 วันนี้ ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนนั้นไม่ให้ประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน อีกทั้งมีประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย 145 ราย มาลงชื่อเพื่อคัดค้านการประกันตัว ซึ่งเมื่อส่งศาลแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 7 เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือและอีสาน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ.68)

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง