นครราชสีมา 30 มี.ค.- เกิดเหตุญาติในงานศพจุดบั้งไฟไว้อาลัยผู้เสียชีวิตแต่เศษบั้งไฟกระเด็นไปหล่นกระแทกศีรษะนักเรียนโรงเรียนที่ห่างไป 500 เมตรจนสลบ ล่าสุดอาการยังน่าห่วง
กรณีเกิดเหตุการณ์มีคนจุดพลุบั้งไฟในงานศพ เศษบั้งไฟปลิวหล่นกระแทกศีรษะเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งอายุ 9 ขวบ จนศีรษะแตก นอนสลบไม่รู้สึกตัว อาการสาหัส ขณะกำลังเลิกเรียนเมื่อบ่ายวานนี้ เหตุเกิดที่โรงเรียนอาจวิทยาคาร ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ขณะนี้นักเรียนคนดังกล่าวยังรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ล่าสุด เช้าวันนี้ ที่โรงเรียนอาจวิทยาคาร ครูศิวาพร ลำเภาพันธ์ ครูในโรงเรียนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. เป็นช่วงที่นักเรียนตั้งแถวกำลังกลับบ้าน พบว่าได้ยินเสียงดังปัง มีควัน ซึ่งเกิดจากพลุบั้งไฟตะไล ที่จุดในงานศพได้ตกใส่ที่ศีรษะ ทำให้น้องมีเลือดออก และสลบคาที่ ส่วนเพื่อนที่เดินข้างกันเสื้อขาด แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้แจ้งกู้ภัยให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเสียเลือดมาก และรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาทางคณะครูและผู้ปกครองก็ได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคนที่จุด และขอให้เป็นเคสสุดท้าย ซึ่งตามหลักความเป็นจริงเมรุเผาศพอยู่ใกล้กับชุมชน ก็ไม่ควรที่จะจุดเพราะอาจจะเกิดไฟไหม้บ้านได้
พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายนนทกร พร้อมด้วยนายจำลอง คนจุดพลุ 2 คน ซึ่งเป็นญาติในงานศพยายได้จุดพลุบั้งไฟตะไล 4 อัน เพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัยให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งวัดอยู่ห่างจากโรงเรียนระยะทาง 500 เมตร แต่ไม่คิดว่าพลุบั้งไฟตะไล จะตกใส่ศีรษะนักเรียน จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองพร้อมด้วยครู ได้เข้ามาแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ปักธงชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ส่วนอาการนักเรียน 9 ปี นอนอยู่ห้องไอซียู รพ.มหาราชนครราชสีมา เมื่อคืนที่ผ่านมา แพทย์ผ่าตัดสมองใช้เวลา 2 ชั่วโมง ล่าสุด ยังไม่รู้สึกตัว ใช้เครื่องช่วยหายใจและอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
พ่อเด็กบอกแพทย์ให้ครอบครัวเริ่มทำใจ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 149 บ้านตะคุ ซึ่งเป็นบ้านของเด็กนักเรียน 9 ขวบที่ได้รับบาดเจ็บจากพลุจุดงานศพตกใส่ศีรษะอาการโคม่า มีชาวบ้านเดินทางมาสอบถามอาการบาดเจ็บของน้องมิ๊นท์เป็นจำนวนมาก
นายนิรุต สวัสดี พ่อของน้องมิ๊นท์ เผยว่า พูดไม่ออกบอกไม่ถูกที่ลูกสาวต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ขณะนี้อาการของน้องยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว แพทย์ได้เอกซเรย์ศีรษะพบว่า ถูกเศษไม้ของพลุตะไลทิ่มเข้าไปในกะโหลกศีรษะความลึกประมาณ 10 เซนติเมตรเป็นแผลฉกรรจ์ และแพทย์ได้บอกให้ครอบครัวเริ่มทำใจ เพราะน้องอาการหนักมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของใคร คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ส่วนบริเวณเมรุเผาศพวัดหน้าพระธาตุพบว่า จุดที่ตั้งเมรุเผาศพ ห่างจากรั้วโรงเรียนที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ด้านหลังเมรุพบร่องรอยการจุดพลุงานศพทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ปัจจุบันชาวบ้านมักจุดพลุในงานศพโดยใช้พลุแบบใหม่ที่มีเสียงดัง และแตกกระจายในท้องฟ้า ซึ่งพลุแบบนี้จะไม่ค่อยมีเศษพลุตกลงมาด้านล่าง ขณะที่วันเกิดเหตุคนจุดพลุได้ใช้พลุตะไลทำจากไม้ เหมือนบั้งไฟ จึงทำให้มีเศษของไม้หล่นลงมาใส่หัวเด็กดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย