กระบี่ 29 มี.ค.-ครั้งแรกในรอบหลายสิบปี เต่าตนุ ขึ้นวางไข่บนเกาะไหง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จำนวน 84ฟอง เบื้องต้นถูกน้ำทะเลท่วมเสียหายไปแล้ว 7 ฟอง จนท.ต้องย้ายที่ใหม่ป้องกันความเสียหาย คาด 40-50 วันฟักเป็นตัว พร้อมฝากให้ชาวประมงและนักท่องเที่ยวช่วยกันอนุรักษ์
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.64 นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่เกาะไหง ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ว่าพบรังไข่เต่าริมชายหาดบนเกาะไหง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบ พบหลุมที่เต่าทะเลขึ้นวางไข่กว้างประมาณ 1.1 เมตร ลึกประมาณ 75 ซม. ตรวจสอบภายในหลุมไข่พบไข่เต่าจำนวน 84 ฟอง สอบถามจากชาวบ้านบนเกาะ เบื้องต้นทราบว่าเต่าทะเลที่ขึ้นมาวางไข่ น่าจะเป็น เต่าตนุขึ้นมาวางไข่เมื่อประมาณ 1-2 วันที่ผ่านมา ซึ่งจุดที่แม่เต่าขุดหลุมวางไข่ เป็นจุดที่อยู่ไม่ห่างจากน้ำทะเลมากนัก ทำให้ช่วงน้ำขึ้น น้ำทะเลจะไหลเข้าท่วมในหลุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าน้ำทะเลจะทำให้ไข่เต่าได้รับความเสียหายได้ จึงตรวจสอบไข่เต่าทั้งหมดในรัง พบว่ามีไข่ที่เสียหายไปแล้วจำนวน 7 ฟอง จึงต้องเคลื่อนย้ายไข่ที่เหลืออีก 77 ฟอง ไปฝังไว้ในจุดที่ห่างน้ำทะเลท่วมถึง เพื่อให้ไข่ได้มีโอกาสฟักเป็นตัว
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยว่า รังไข่เต่าที่พบรังนี้ ถือเป็นรังแรกในรอบหลายสิบปีของ จ.กระบี่ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยพบเห็นเต่าทะเลขึ้นวางไข่ในพื้นที่มาก่อน ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับชาวกระบี่ โดยหลังจากนี้ทางอุทยานฯ จะจัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์ตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้าไปรบกวน ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 40-50 วัน ในการรอให้ไข่เต่าฟักออกมาเป็นตัว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าไข่เต่าทั้งหมด จะสมบูรณ์หรือไม่ เพราะจุดที่แม่เต่าไปวางไข่ อยู่ใกล้น้ำทะเลเกินไป ทำให้เวลาน้ำขึ้นจะมีน้ำไหลเข้าท่วมรัง ซึ่งได้จัดพื้นที่ใหม่ที่น้ำขึ้นไม่ถึง และทำการย้ายไข่ทั้งหมดไปฝังไว้แล้ว จึงขอฝากประชาชนและนักท่องเที่ยวช่วยกันดูแล อนุรักษ์เพราะเป็นเต่าที่หายาก.-สำนักข่าวไทย