แจ้งข้อหา ผอ.-ครู ประมาท ทำ นร.จมน้ำค่ายลูกเสือดับ

กาฬสินธุ์ 26 มี.ค. – แจ้งข้อหาผู้อำนวยการโรงเรียนและครู คดีเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 จมน้ำเสียชีวิตระหว่างเข้าค่ายลูกเสือ ตำรวจเผยพยานให้การเห็นผู้เสียชีวิตลงสระน้ำแต่ไม่เห็นขึ้นมา คาดจมน้ำขณะเข้าฐาน


จากกรณี “น้องปอนด์” อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จมน้ำเสียชีวิตในหนองน้ำสาธารณะที่อยู่ติดกับโรงเรียน หลังจากร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทางญาติติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต และคาดว่าน้องปอนด์จมน้ำขณะเข้าฐาน “หนีสงคราม” ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กดำน้ำ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ป้องกันช่วยเหลือ และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ดำเนินคดีกับคณะครูผู้เกี่ยวข้อง

ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ไปเก็บหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคลประมาณ 20 ปาก ตลอดจนพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อประมวลเหตุการณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานคลี่คลายคดี โดยเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ได้สอบปากเด็กนักเรียนในกลุ่มที่เข้าฐานหนีสงครามกับน้องปอนด์ 6 คน รวมทั้งผู้ปกครอง ที่สำนักอัยการ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ในขณะที่คณะทำงานชุดสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ได้เรียกผู้อำนวยการโรงเรียน และครูผู้ควบคุมการเข้าค่ายลูกเสือฐานดังกล่าว มาสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว


พล.ต.ต.สมนึก ระบุว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานแวดล้อม พบว่าช่วงเกิดเหตุมีคนเห็นน้องปอนด์ลงไปในน้ำเข้าฐานหนีสงคราม แต่ไม่เห็นขึ้นจากน้ำ จึงคาดว่าจะจมน้ำเสียชีวิตขณะร่วมกิจกรรมฐานดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ได้เชิญตัวผู้อำนวยการโรงเรียนและครูผู้ควบคุมฐานหนีสงครามมารับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” โดยทั้ง 3 คน รับสารภาพ และยอมรับว่าการให้เด็กนักเรียนเข้าฐานดังกล่าวไม่ได้มีการเตรียมการให้ดี ไม่ได้วางแผนป้องกันอุบัติเหตุให้ดี จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้ปล่อยตัวชั่วคราว และจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนการสืบสวนสอบสวนกรณีผู้ปกครองแจ้งความว่ามีการดื่มสุราในสถานศึกษาในเวลาราชการนั้นหรือไม่ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”