fbpx

คุมตัวหนุ่มคลั่งยาบ้าฆ่า 2 ศพ ทำแผนฯ

ปทุมธานี 23 มี.ค. – ตำรวจกว่า 20 นาย คุมตัวหนุ่มหลอนยาบ้าแทงเด็กปั๊ม 11 แผล เสียชีวิตในห้องเก็บของภายในปั๊มเอสโซ่ จ.ปทุมธานี และวันเดียวกันใช้ปืนจ่อยิงศีรษะหญิงอายุ 40 ปี ที่นอนเล่นอยู่ในเปลญวนใต้ถุนบ้านพัก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดก่อเหตุ


หลังจับกุมนายศราวุธ หรือเต้ย หนุ่มคลั่งยาบ้าก่อเหตุสะเทือนขวัญ ใช้มีดแทงเด็กปั๊ม 11 แผล เสียชีวิตภายในปั๊มเอสโซ่ จังหวัดปทุมธานี และวันเดียวกันใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนบ้านเสียชีวิตคาเปลญวนใต้ถุนบ้าน วันนี้ตำรวจได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดก่อเหตุ เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายขึ้น ญาติผู้เสียชีวิตหวิดปะทะกับกลุ่มเพื่อนๆ ผู้ต้องหา

นาทีที่กำลังตำรวจกว่า 20 นาย คุมตัวนายศราวุธ หรือเต้ย อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดแทงเด็กปั๊มเสียชีวิตภายในปั๊มเอสโซ่ สาขาสามโคกขาเข้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเป็นจุดที่นายศราวุธใช้มีด 2 เล่ม แทงเด็กปั๊ม อายุ 39 ปี เสียชีวิตในห้องเก็บของภายในปั๊ม


จุดแรกเริ่มจากการที่นายศราวุธขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน เข้ามาจอดเติมน้ำมันที่ตู้หมายเลข 5 จากนั้นนายศราวุธชักมีดออกมาขู่เด็กปั๊มให้ส่งเงินมาแต่ไม่ได้เงิน ก่อนจะขี่รถออกไปโดยไม่จ่ายค่าน้ำมัน 40 บาท

จากนั้นจุดที่ 2 นายศราวุธขี่รถย้อนกลับมาที่ปั๊ม จอดรถใกล้ทางเข้า-ออก และพุ่งเข้าทำร้ายเด็กปั๊ม ใช้มีด 2 เล่มจ้วงแทง ก่อนที่เด็กปั๊มพยายามวิ่งหนีเข้าห้องเก็บของ แต่คนร้ายวิ่งตามไปกระหน่ำแทงไม่ยั้งทั้งหมด 11 แผล กระทั่งเสียชีวิตคาที่

ขณะทำแผนอยู่นั้นมีกลุ่มเพื่อนๆ ของนายศราวุธกว่า 10 คน ขับรถปิกอัพมายืนดูการทำแผน ในจังหวะนั้นเกิดเหตุชุลมุน เนื่องจากกลุ่มเพื่อนของผู้ต้องหาคนหนึ่งเข้าไปดึงมือนายอนุศักดิ์ นักรบ น้องชายต่างพ่อของผู้เสียชีวิต เพื่อไม่ให้เข้าไปใกล้ผู้ต้องหา เพราะเกรงว่าจะเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหา จึงเกิดความวุ่นวายและมีการโต้เถียงกัน โดยกลุ่มเพื่อนผู้ต้องหายังทำท่าทางกวักมือท้าทายญาติๆ ของผู้ตาย ก่อนจะมีเหตุบานปลาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามากันทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน และให้กลุ่มเพื่อนๆ ของผู้ต้องหารีบออกไปจากสถานที่เกิดเหตุทันที


ส่วนอีกพื้นที่ก่อเหตุในตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก เป็นจุดที่นายศราวุธใช้ปืนขนาด .38 จ่อยิงศีรษะนางสาวมะลิวรรณ อายุ 40 ปี ที่นอนเล่นอยู่ในเปลญวนใต้ถุนบ้านพัก และพาไปจุดที่พบอาวุธมีดเปื้อนเลือด หลังจากไปก่อเหตุแทงเด็กปั๊มน้ำมัน พร้อมกับเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด จุดที่ผู้ต้องหานำอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้ในห้องนอน และจุดที่ใช้อาวุธปืนยิงลงพื้น ยิงขึ้นฟ้า ซึ่งในระหว่างทำแผนฯ มีนายจักรพงษ์ อายุ 38 ปี สามีของผู้เสียชีวิต และญาติ ยืนรอดูการทำแผนฯ มีเสียงตะโกนด่าต่อว่าผู้ต้องหาตลอดเวลา ช่วงระหว่างที่ทำแผนฯ อยู่นั้น แม่สามีของผู้เสียชีวิตร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ร้องถามคนร้ายทำไมถึงต้องฆ่าลูกสะใภ้ของตน

ในส่วนของคดีนี้ พันตำรวจเอกดรุกร สิทธิสมบูรณ์ ผกก.สภ.สามโคก เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าในคืนวันเกิดเหตุ เวลาประมาณตี 1 เศษ วันที่ 22 มี.ค. ได้เสพยาบ้าและดื่มน้ำกระท่อมจนมีอาการหลอน นอนไม่หลับ จึงขี่รถจักรยานยนต์ไปที่ปั๊มน้ำมันแล้วไม่มีเงินจ่าย จึงชักมีดออกมาขู่เด็กปั๊มเพื่อจะเอาเงินแต่ไม่ได้เงิน ก่อนขับรถออกไปและย้อนกลับมาอีกครั้ง จากนั้นปรี่เข้าไปทำร้ายนำอาวุธมีดออกมาจ้วงแทงจนเด็กปั๊มเสียชีวิต และได้วางมีดไว้ตรงมือคนตาย 1 เล่ม และพกติดตัวกลับมา 1 เล่ม จากนั้นขี่รถออกไปจอดตรงจุดที่เด็กปั๊มนอนเสียชีวิต พร้อมสะบัดรองเท้าไปทางคนตาย 1 คู่ จากนั้นขับรถกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดที่บ้าน แล้วนำมีดไปวางไว้ข้างบ้าน

จนกระทั่งเกือบตี 4 ออกไปซื้อเบียร์ที่ร้านของนางแป๊ว โคมน้อย อายุ 58 ปี แม่สามีของนางสาวมะลิวรรณ ผู้ตาย จำนวน 3 ขวด โดยไม่ได้จ่ายเงิน จากนั้นกลับเข้าไปดื่มเบียร์ที่บ้านพักอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุมากนัก กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ต้องหาเกิดอาการหลอน จึงเอาปืนไปยิงนางสาวมะลิวรรณที่กำลังนอนเล่นในเปลญวนใต้ถุนบ้าน ก่อนชักปืนออกมาจ่อยิงที่หน้าผาก 1 นัด จากนั้นเดินออกไปที่ร้านค้าของนางแป๊ว และไปหยิบน้ำดื่ม 3 ขวด แล้วเดินเข้าบ้านยิงปืนลงกับพื้นและขึ้นฟ้าอีก 3 นัด จนถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา

ส่วนสาเหตุที่จ่อยิง ผู้ต้องหาอ้างว่าผู้เสียชีวิตนำผู้ชายมาข่มขืนลูกสาวตน หลังจากทำแผนฯ เสร็จแล้ว ตำรวจได้นำตัวนายศราวุธมาสอบปากคำเพิ่ม และจะได้นำตัวฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ