ฉะเชิงเทรา 23 มี.ค.-ตำรวจแปดริ้ว ปิดล้อมป่ากลางหมู่บ้านดัง หลังมีโจรปีนขึ้นบ้าน ก่อนคนร้ายจะตกใจวิ่งหนีซ่อนตัวในป่า แต่สุดท้ายโดนจับได้เพราะหายใจแรง
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ประมาณ 21.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยกว่า 50 นาย ปิดล้อมป่า บริเวณด้านหลังโรงเรียนวัดประตูน้ำท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับแจ้งจาก นายสมเกียรติ เพียรพิพิธจันทร์ เจ้าของบ้านว่า มีคนร้ายลักษณะผอม ผิวคล้ำ อายุประมาณ 20-30 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น ปีนเข้าไปในบ้าน ขณะนั้นตนเองกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้านล่าง ส่วนลูกสาว และภรรยาอยู่ด้านบนบ้าน เมื่อตนเห็นชายคนดังกล่าวกำลังปีนเข้าบ้าน จึงตะโกนถาม ทำให้คนร้ายตกใจ รีบปีนลงมาก่อนวิ่งหลบหนีอย่างรวดเร็ว ตนเองจึงพยายามวิ่งตามจนมาพบว่าคนร้ายได้เข้าไปซุกตัวในป่าหญ้า ภายในหมู่บ้านอัจฉราประตูน้ำท่าไข่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครกู้ภัยได้ทำการปิดล้อม ตรวจค้นบริเวณโรงเรียนวัดประตูน้ำและตามอาคารชั้นเรียนต่างๆ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนปูพรหมภายในป่าหญ้าด้านหลังโรงเรียน เจ้าหน้าที่พยายามส่องไฟหาและใช้ไม้กระทุ้งตามพงหญ้า เพื่อให้คนร้ายออกมา โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ไม่มีวี่แววว่าคนร้ายจะออกมา
ก่อนจะประสานรถไถดินมาทำการไถป่า เพื่อกดดันคนร้ายให้ออกมา ขณะที่รอรถไถ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าอยู่ด้านบนกำแพงโรงเรียนได้ยินเสียงเหมือนมีคนหายใจเหนื่อยหอบ บริเวณพงหญ้าที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึง ก่อนตะโกนเรียกให้เจ้าหน้าที่ด้านนอกที่ถอนกำลังออกไปแล้วเข้ามาสมทบ จนเจอตัวคนร้ายนอนหมอบราบอยู่ในพงหญ้า เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว ก่อนนำตัวออกมาสอบสวนด้านนอก
จากการสอบถามทราบชื่อคนร้ายต่อมาคือ นายสมชาย มาตรกลาง อายุ 38 ปี เคยทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพมหานคร แต่ตกงานมานานกว่า 3-4 เดือนแล้ว จึงนั่งรถมาที่ฉะเชิงเทรา เพื่อหางานทำแต่ก็ไม่มีคนรับเข้าทำงาน วันนี้ตั้งใจเข้าไปขโมยของในบ้านหลังดังกล่าว แต่เจ้าของบ้านเห็นเสียก่อน จึงรีบวิ่งหนีมาซุกตัวภายในป่าก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติ พบเคยมีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะที่สถานีตำรวจ เบื้องได้ตั้งข้อหาบุกรุกในเคหสถานในยามวิกาล และข้อหาพยายามลักทรัพย์ ซึ่งหากผลปัสสาวะมีสารเสพติดก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป.-สำนักข่าวไทย
