ตั้งรางวัลนำจับสาวไทยหลอกชาวญี่ปุ่นหมดตัว

เชียงใหม่ 12 มี.ค.-กลุ่มสูงวัยชาวญี่ปุ่นร้องสื่อ สาวไทยหลอกร่วมลงทุนธุรกิจต่อวีซ่า สุดท้ายปิดบริษัทหนี มีเหยื่อรวมกว่า 20 คน สูญเงินเกือบ 30 ล้านบาท ศาลออกหมายจับแล้ว แต่ยังลอยนวล ใครพบเบาะแส พร้อมให้รางวัลตอบแทน


กลุ่มชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวร้องเรียนกับสื่อมวลชน ช่วยตามหาตัวนางสาววรินทร หรือ หนึ่ง ทรัพย์รชา อายุ 44 ปี พร้อมกับแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่ร่วมกันหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว และวีซ่า จนมีชาวญี่ปุ่นและชาวสิงคโปร์หลงเชื่อ สูญเงินไปรวมแล้วกว่า 30 ล้านบาท หลายคนต้องเดือดร้อนอย่างหนักเพราะสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก

นายฮิโรอาคิ โอคาเบะ อายุ 61 ปี เล่าว่า ตนเองได้มาพำนักระยะยาวในวัยเกษียณ ที่จังหวัดเชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปี ช่วงต้นปี 2562 นางสาววรินทรและแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่น ที่เปิดบริษัทชื่อ L.C.M.T หรือ โลโคโมชันทัวร์ ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอ้างว่าดำเนินกิจการเกี่ยวกับจัดทัวร์และให้บริการต่อวีซ่าให้กับชาวต่างชาติ ได้มาชักชวนให้ตนเอง และกลุ่มเพื่อนชาวญี่ปุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมลงทุนกับบริษัท


เดือนกุมภาพันธ์ 2562 นางสาววรินทร บอกว่าทางบริษัทได้รับอนุมติให้จัดกิจกรรมงานยี่เป็ง ที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 11 และ 12 พฤศจิกายน 2562 พร้อมชักชวนให้ร่วมลงทุนและจะให้ผลตอบแทน ร้อยละ 30 ด้วยความที่เห็นมีที่ตั้งบริษัทเป็นหลักแหล่ง มีแฟนเป็นคนญี่ปุ่น และนางสาววรินทร ยังถือสัญชาติญี่ปุ่นเป็นสัญชาติที่สอง จึงเชื่อใจ ร่วมลงทุนไป 1 ล้านบาท

ต่อมาระหว่างที่รอจัดงานยี่เป็ง นางสาววรินทรยังได้ชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจต่อวีซ่าให้กับชาวญี่ปุ่น อ้างว่าจะนำเงินไปการันตีเพื่อต่อวีซ่าให้กับชาวญี่ปุ่น ตามเงื่อนไขที่จะต้องมีเงินการันตีคนละ 8 แสนบาท โดยบอกว่ามีชาวญี่ปุ่นหลายคนที่มีเงินไม่พอและต้องต่อวีซ่า หากร่วมลงทุนจะได้ค่าตอบแทนจากการเช่าเงินร้อยละ 5-10 ของเงินที่ลงทุน ตนเองจึงทยอยโอนเงินให้เดือนละครั้ง ครั้งละหลายแสนบาท ครั้งล่าสุดเดือนตุลาคม 2563 โดยระหว่างที่ลงทุน ในช่วงแรก ได้รับเงินผลตอบแทน แต่ช่วงหลังก็เงียบหายไป อ้างว่าเงินอยู่ในระยะเวลาการันตี ยังไม่สามารถถอนออกมาให้ได้

เดือนพฤศจิกายน นางสาววรินทรขาดการติดต่อ จึงไปตามหาที่บริษัท กลับพบว่าปิดกิจการไปแล้ว ไปตามหาที่บ้านพักก็ย้ายออกไป จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก เมื่อสอบถามกลุ่มเพื่อนชาวญี่ปุ่น ก็พบว่ามีหลายคนถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ซึ่งทุกคนบอกตรงกันว่านางวรินทร ห้ามไม่ให้เล่าเรื่องลงทุนให้กับคนอื่นได้ทราบ นายฮิโรอาคิ เผยว่าตนเองโอนเงินไปทั้งหมด 17 ครั้ง รวมเป็นเงิน 9.4 ล้านบาท ได้คืนมา 1.4 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ ลงทุนคนละหลายแสนถึงหลายล้านบาท รวมทั้งยังมีชาวสิงคโปร์อีกบางส่วน เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท


เรื่องที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้เสียหาย 4 คน ได้รวมตัวเข้าแจ้งความที่ สภ.ช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2563 ก่อนที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่จะออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังจับกุมตัวไม่ได้ จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับสื่อมวลชน ขอให้เผยแพร่ข่าวเพื่อให้ผู้ที่ทราบเบาะแสแจ้งข้อมูล เพื่อให้ตำรวจเข้าจับกุมซึ่งจะมีรางวัลให้จำนวนหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”