เชียงใหม่อากาศแย่อันดับ 1 ของโลกเป็นวันที่ 4

เชียงใหม่ 9 มี.ค.- สภาพอากาศในเชียงใหม่ยังปกคุมด้วยหมอกควันหนาแน่น คุณภาพอากาศเกินจุดวิกฤตทั้งจังหวัด ค่ามลพิษมีผลกระทบสุขภาพ ขณะเดียวกัน คุณภาพอากาศยังแย่ที่สุดอันดับ 1 ในโลกติดต่อกันเป็นวันที่ 4


สภาพถนนโชตนา จากอำเภอแม่ริม เข้ามาตัวเมืองเชียงใหม่ มองจากมุมสูง เต็มไปด้วยหมอกควันจากไฟป่า จนขมุกขมัว ทัศนวิทัศน์ไม่ชัดเจน ประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ รวมทั้งพ่อค้าอยู่ในที่โล่งมีอาการแสบตาแสบจมูก ต้องสวมหน้ากากอนามัยถึง 2 ชั้น ทำให้เช้าวันนี้บริเวณหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา วัดค่า PM2.5 สูงถึง 128 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนพื้นที่ตำบลช้างเผือก ค่า PM2.5 อยู่ที่ 113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ต้องนำรถออกฉีดพ่นน้ำเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความชื้น และเทศบาลนครเชียงใหม่ ต้องเปิดน้ำพุรอบคูเมือง ช่วยเพิ่มความชื้นดูดซับหมอกควัน

ขณะที่เว็บไซต์ AirVisual รายงานคุณภาพอากาศ และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ โดยช่วงเช้าเวลา 09.00 น.ผ่านมา เชียงใหม่คุณภาพอากาศ แย่อันดับ 1 ของโลก ต่อกันเป็นวันที่ 4 สาเหตุมาจากการลักลอบเผาป่ากระจายในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ


หนุ่มนักธุรกิจน้ำใจงามแจกหน้ากากกันฝุ่น 1 พันชิ้น

มีเรื่องน่าชื่นชม! หนุ่มนักธุรกิจน้ำใจงามใช้เงินส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัย N95 กันฝุ่นพิษ PM2.5 จำนวน 1,000 ชิ้นยืนแจกให้กับชาวเชียงใหม่ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์และติดไฟแดงตามสี่แยก ท่ามกลางหมอกควันที่ปกคลุมเชียงใหม่อย่างหนาแน่น โดยชาวเชียงใหม่ส่วนหนึ่งที่ได้รับแจกหน้ากาก บอกว่า เริ่มได้รับผลกระทบจากหมอกควันและฝุ่นพิษแล้ว รู้สึกได้ถึงอาการแสบตาแสบจมูก และดีใจที่มีคนนำหน้ากากอนามัยที่กันฝุ่นพิษมาแจกจ่ายแบ่งปัน เพราะราคาค่อนข้างสูง

ขณะที่นายธนันวัฒน์ บอกว่า ช่วง 2-3 ปีมานี้ตนแจกหน้ากากอนามัยมาแล้วหลายครั้งใช้ชื่อโครงการ safechiangmai และครั้งนี้ตั้งใจนำหน้ากากอนามัยแบบ N95 ซึ่งใช้เงินส่วนตัวราว 30,000 บาท ซื้อมาแจกจ่ายให้กับชาวเชียงใหม่เพราะเป็นห่วงผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยหรือไม่สามารถซื้อหน้ากากแบบ N95 ได้ และอยากรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันหยุดการเผาเพื่อให้คนส่วนใหญ่หายใจได้สะดวกขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการนำหน้ากากอนามัยมาบริจาคสมทบ สามารถติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก tanunwat weraphongkamol เพื่อช่วยกันลดผลกระทบจากหมอกควันและฝุ่นพิษ


อากาศ จ.เชียงราย ยังน่าห่วง

สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ปกคลุมจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สายยังคงน่าเป็นห่วง ซึ่งผลการตรวจวัดค่าหมอกควัน PM2.5 ไมครอน ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศหน้าสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ พุ่งสูงถึง 227 ไมโครกรัม
ต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนค่า PM10 ไมครอน พุ่งสูงถึง 286 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรต่อไมโครกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพติดต่อกันมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้ทั่วตัวเมืองแม่สายและตามท้องถนน มองเห็นเป็นหมอกควันอย่างชัดเจน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสารณภัยเขต15 ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่สาย และทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ก็ได้นำรถดับเพลิงและรถพ่นน้ำแรงดันสูงมาพ่นเพื่อชำระล้างหมอกควันบนถนนสายหลักตั้งแต่สี่แยกห้วยน้ำรินไปจนถึงหน้าด่านติดต่อกันมา 5 วัน แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพราะหมอกควันส่วนใหญ่เป็นหมอกควันข้ามแดน ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนให้ประชาชนงดทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงนี้ หากมีความจำเป็นต้องหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ส่วนเด็กเล็ก คนชรา และผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ ต้องหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน ในระยะนี้

ทส.สั่งคุมเข้ม PM 2.5 และจุดความร้อนภาคเหนือ

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สั่งการให้ทุกหน่วยงานในภาคเหนือดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง และตาก เนื่องจากมีการลักลอบเผาในพื้นที่ป่ามากขึ้น

ล่าสุดกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพิ่มกำลังในการลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานปกครอง เพื่อเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที รวมถึงระดมอุปกรณ์เครื่องมือมาสนับสนุนการเผชิญเหตุเพื่อเร่งควบคุมและดับไฟโดยเร็ว โดยเฉพาะในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง และเชียงใหม่ นอกจากนี้ ในหลายจังหวัดประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดจนถึงวันที่ 30 เมษายน รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

ส่วนการเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่เมือง โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือ ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างเข้มงวด เช่น การเข้มงวดการตรวจควันดำรถยนต์ เพื่อลดการซ้ำเติมปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว