สุราษฎร์ธานี 6 มี.ค. – อุกอาจ! 4 ชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ ใช้ปืนจ่อศีรษะเจ้าของหอพักและนักศึกษา อ้างพัวพันยาเสพติด แล้วพาเข้าม่านรูด บังคับขายทองเอาเงินสดแลกกับการไม่ดำเนินคดี
ผู้เสียหายนำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน มาป้วนเปี้ยนหน้าหอพัก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นหลักฐานเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว และพาไปยังสถานที่เกิดเหตุบริเวณชั้นล่างของหอพักดังกล่าว
นายศิระ ทิพย์จันทร์ อายุ 40 ปี เจ้าของหอพัก เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนอนพักผ่อนอยู่ที่หอพักชั้นล่าง ซึ่งกั้นเป็นที่พักไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนด้านบนเป็นหอพักนักศึกษา ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกให้เปิดประตู เมื่อลุกขึ้นมาดู ก็เห็นชายฉกรรจ์ 4 คน เดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณหน้าหอพัก ก็ไม่ได้เอะใจ จึงไม่ได้เปิดประตู ผ่านไปประมาณ 10 นาที มีโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของตน ซึ่งเป็นเบอร์ที่ติดไว้หน้าหอพัก บอกว่ามาจากบริษัทขนส่งสินค้า ซึ่งต้องเก็บเงินปลายทาง พอกำลังจะเดินไปเปิดประตู จู่ๆ ชาย 1 ใน 4 ก็ดึงประตูจนหลุด และบุกเข้ามาล้อมตัวนายศิระ บอกว่าเป็นตำรวจตามจับยาเสพติด แล้วก็เดินค้นทั่วหอพักชั้นล่าง ตนก็บอกไปว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ขณะเดียวกัน นักศึกษาที่มาเช่าหอพักอยู่ชั้นบน ได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวาย จึงเดินลงมาดู กลุ่มชายฉกรรจ์หันมาเห็นเข้า จึงใช้ปืนจี้ให้ทั้งนายศิระ และน้องนักศึกษา ขึ้นรถไปด้วย ระหว่างที่อยู่ในรถก็พูดขึ้นว่า มีทรัพย์สินอะไรบ้าง แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี จากนั้นเลี้ยวไปที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ก็นึกเอะใจว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ตำรวจแน่ ตอนนั้นกลัวมาก แต่คิดว่าต้องเอาตัวรอดให้ได้ ทั้งตนเองและน้องนักศึกษา จึงพูดขึ้นว่า ทรัพย์สินมีเพียงเลสข้อมือหนัก 2 บาท กลุ่มชายฉกรรจ์จึงพาไปที่ร้านทอง และบังคับให้ขายทอง ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ระหว่างที่เดินไปขายทองที่ร้านทองก็ถูกประกบตลอด ซึ่งตอนนั้นตนเป็นห่วงน้องนักศึกษามาก เพราะยังอยู่ในรถ เมื่อได้เงินสดจึงมอบให้ทันที และชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คน ก็พามาส่งที่หอพัก จากนั้นตนเองได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ขุนทะเล เจ้าของพื้นที่ หลังจากนั้น 2-3 วัน มีนักการเมืองท้องถิ่นโทรมาหา ขอให้ถอนแจ้งความ แต่ตนเองไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เกรงจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นอีก
ขณะที่น้องนักศึกษา กล่าวว่า กลัวมาก และยังรู้สึกกลัวจนถึงตอนนี้ ไม่สบายใจ ตราบใดที่ทางตำรวจยังจับคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้
ล่าสุด พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งติดราชการในพื้นที่ต่างจังหวัด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เห็นหน้าผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ค่อนข้างชัดเจนแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัว โดยคดีนี้ผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามาทางเพจเฟซบุ๊กกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งตนเองก็ได้นำกำลังลงพื้นที่ทันทีตั้งแต่รับทราบวันแรก ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวตามที่ผู้เสียหายระบุ เชื่อมั่นว่าจับกุมตัวได้แน่นอน เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจอย่างมาก ทั้งที่เป็นเขตชุมชน ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่า บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นเขตชุมชน อยู่ห่างจากสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ช่วงกลางวันมีรถผ่านไปมา ส่วนใหญ่โซนนี้เป็นหอพักนักศึกษาเกือบทั้งหมด แต่ค่อนข้างเงียบ เพราะนักศึกษาส่วนหนึ่งยังเรียนออนไลน์ ร้านค้าและร้านอาหารเกินกว่าครึ่งปิดชั่วคราว เพราะวิกฤติโควิด-19. – สำนักข่าวไทย