ชัยนาท 18 ก.พ.-เปิดใจเมียหลวงไลฟ์เฟซบุ๊กถือทะเบียนสมรส บุกงานแต่งงานผัวกับหญิงคนใหม่ ล่าสุดฟ้องเรียกค่าทดแทนจากฝ่ายหญิงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ไลฟ์บรรยากาศงานแต่งงานของสามีตนเองที่เป็นตำรวจ ยศ ส.ต.ต. กับภรรยาน้อย โดยภรรยาหลวงรายนี้ยังได้นำทะเบียนสมรส ไปเป็นหลักฐาน พร้อมสอบถามว่า มีใบทะเบียนสมรสแบบนี้มาจัดงานแต่งงานได้อย่างไร จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง หญิงสาวผู้โพสต์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยคุณบี (นามสมมุติ) เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปยังบ้านงานแต่งงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองชัยนาท หลังจากทราบข่าวว่า สามีของตนที่มีอาชีพรับราชการตำรวจ อยู่ สภ.เมืองชัยนาท ที่แต่งงานอยู่กินกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 15 ปี และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ได้แอบไปแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งเรื่องที่ว่าสามีของตนนั้นมีผู้หญิงคนอื่น ตนเองรู้เรื่องมาเป็นเวลา 1 ปี แล้ว แต่ไม่พูดอะไร และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ ตนเองได้ยินข่าวจากเพื่อนๆมานานแล้ว ว่าฝ่ายหญิง ได้ประกาศจะแต่งงานกับสามีตน ซึ่งทีแรกตนเองก็ไม่คิดว่าสามีจะไปแต่งงานจริง
และเมื่อคืนที่ผ่านมา สามีก็ยังอยู่ที่บ้านกับตนและบอกกับตนว่า คืนนี้จะออกไปเข้าเวร “ตนเองก็ยังได้พูดย้ำว่า คิดให้ดีนะ ถ้าจะแต่งงานใหม่” สามีก็พูดตอบกลับมาว่า “ไม่มีอะไร ใครจะไปแต่งงานใหม่ จะไปเข้าเวร” ซึ่งช่วงเช้า ตนเองจึงตัดสินใจ เดินทางไปยังบ้านของฝ่ายหญิง เพื่อจะดูว่ามีการจัดงานแต่งงานจริงหรือไม่ พอไปถึงที่บ้านงานตนเองก็ต้องตกใจ และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าสามีจะมาแต่งงานจริง ก่อนที่ตนเองจะเดินออกมาจากงานแต่งงาน
พอหลังจากเกิดเรื่องราวดังกล่าว ตนเองได้เดินทางไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท พร้อมกับทนายความ เพื่อดำเนินการฟ้องเรียกค่าทดแทนจากฝ่ายหญิงอย่างเดียว ส่วนเรื่องที่จะดำเนินการกับสามีตนยังไม่ได้คิดจะดำเนินการอะไร และคุณบี ยังเปิดเผยต่ออีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
ขณะที่ฝ่ายชายได้ออกมายอมรับผิด โดยโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ขอโทษทุกคนด้วยครับ ผมผิดเองคนเดียวอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด” ด้าน ผู้กำกับ สภ. ที่ตำรวจคนดังกล่าวสังกัดอยู่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทราบจากคลิปที่มีการแชร์ในโซเชียลแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการเรียก ส.ต.ต. คนดังกล่าวเข้ามาสอบถามแต่อย่างใด เพราะอยู่ระหว่างลากิจ.-สำนักข่าวไทย