เร่งสางคดีฆ่าอำพรางศพ “น้องหลิว” ในไร่อ้อย 8 ปี

สระแก้ว 15 ก.พ.-สาวสระแก้ววัย 19 ปี ไปทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมในปราจีนบุรี หายตัวไปตั้งแต่ปี 2555 พ่อแม่ตามหาตลอด สุดท้ายพบเป็นศพนิรนามถูกฆาตกรรมทิ้งในไร่อ้อย เพิ่งตรวจดีเอ็นเอพบว่าตรงกับแม่ หลังเธอหายตัวไป 8 ปี


นายสมศักดิ์ ยอดพะเนา และนางสุรีวรรณ ยอดพะเนา พ่อแม่ของนางสาวมยุรี ยอดพะเนา หรือน้องหลิว จุดธูปบอกกล่าววิญญาณของลูกสาวด้วยอาการเศร้าโศกเสียใจ ในบริเวณไร่อ้อย หมู่ 13 ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ที่มีผู้พบศพนิรนามเมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งต่อมาศพนั้นถูกพิสูจน์แล้ว พบว่าดีเอ็นเอตรงกับแม่ของน้องหลิว ทำให้พ่อแม่หมดหวัง จากที่เคยคิดมาตลอดก่อนหน้านี้ว่า ลูกสาวที่หายไปตั้งแต่ปี 2555 ยังไม่เสียชีวิต อาจไปทำงานที่อื่น แต่วันนี้ ทุกอย่างกระจ่างชัดให้พ่อแม่ต้องทำใจให้ได้ว่า น้องหลิวเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปีที่เธอหายตัวไป

เหตุการณ์ที่น้องหลิว หายตัวไป เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ตอนนั้นเธออายุ 19 ปี หายตัวไปจากบริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองรั้ง ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2555 โดยในช่วงเวลานั้นน้องหลิวขี่รถจักรยานยนต์มาห้างโลตัส และจอดรถทิ้งไว้ที่นั่น แล้วขาดการติดต่อไป


ก่อนเกิดเหตุ น้องหลิว เพิ่งเดินทางจากบ้านที่ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว มาทำงานที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน หลังจากน้องหลิวหายไป ครอบครัวได้เดินทางมาเก็บข้าวของเครื่องใช้ของน้องหลิวภายในหอพัก ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 304 เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2555 โดยภายในห้องพักยังมีเสื้อผ้าของใช้ทั่วไปในสภาพปกติ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้น

ครอบครัวได้ออกติดตามหาน้องหลิว ทั้งสอบถามจากเพื่อนสนิท และเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่นิคมอุตสาหกรรม 304 ต่อมากลับมีผู้ปล่อยข่าวลือว่า น้องหลิวน่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศ มี SMS เบอร์แปลกส่งหาเพื่อนสนิททำนองว่า “ไม่ต้องห่วง จะไปทำงานต่างประเทศ” ประกอบกับอุปนิสัยน้องหลิวที่เป็นคนช่วยเหลือตัวเอง เอาตัวรอดด้วยตัวเองมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ครอบครัวจึงคิดว่า น้องหลิวอาจไปหางานทำที่อื่น หรือตัดสินใจกลับไปคบหาคืนดีกับชายต่างวัยที่มาติดพัน ซึ่งก่อนหน้าน้องหลิวจะหายตัวไป ได้มีปัญหาและพยายามจะเลิกรากัน โดยครอบครัวหวังว่าน้องหลิวน่าจะติดต่อกลับทางบ้านเมื่อหน้าที่การงานหรือชีวิตส่วนตัวลงตัว

6 เดือนต่อมา เดือนพฤศจิกายน 2555 ครอบครัวก็ยังไม่ได้ข่าวน้องหลิว จึงมาตามหาอีกครั้งและแจ้งความคนหาย ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ์ และช่วงปี 2556-2561 ครอบครัวได้ติดตามโดยการถามข่าวจากเพื่อนสนิทและโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย กระทั่งปี 2562 จึงแจ้งคนหายไปยังมูลนิธิกระจกเงา ให้ช่วยติดตาม มูลนิธิกระจกเงา จึงประสานตรวจสอบข้อมูลความเคลื่อนไหวของคนหายในระบบราชการ ทำให้รู้ว่า น้องหลิวไม่มีการมาทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่พบความเคลื่อนไหวในระบบบัตรทอง และประกันสังคม และไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ


อีกทั้งในระยะหลังพบคดีคนหายถูกฆาตกรรมและกลายเป็นศพนิรนามหลายศพ จึงมีการตั้งประเด็นเรื่องน้องหลิวอาจเสียชีวิตแล้วเป็นศพนิรนามนอกพื้นที่ที่หายไป ปี 2563 ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา จึงลงพื้นที่ประสานงานตามโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อจุดที่หายไป กระทั่งพบข้อมูลศพนิรนามเพศหญิง ต้องสงสัย 3 ศพ ซึ่งทั้งหมดถูกฆาตกรรมเสียชีวิตและนำศพไปทิ้งอำพราง

ต่อมามีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอแม่ของน้องหลิว ตรวจเทียบกับดีเอ็นเอ ศพนิรนามทั้งสามศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างกระดูกของศพไว้ เมื่อนำมาเทียบดีเอ็นเอกัน พบว่า ศพหญิงนิรนามที่ถูกพบเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 บริเวณไร่อ้อย หมู่ 13 ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ตรงกับดีเอ็นเอของมารดาน้องหลิว

โดยขณะนั้น ตำรวจ สภ.วัฒนานคร รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 หลังการหายตัวไปของน้องหลิว 8 วัน สภาพศพเน่าอืด ใบหน้าเปลี่ยนรูป ไม่มีเอกสารติดตัว ถูกนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบบาดแผลจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายจุด จากนั้นถูกส่งไปฝังที่สุสานแห่งหนี่งในจังหวัดชลบุรีนานกว่า 8 ปี กลายเป็นศพนิรนามไม่ทราบชื่อ กระทั่งเกิดการติดตามจนทราบว่าศพดังกล่าวเป็นน้องหลิวที่หายไปตัว

วันที่ 24 ธันวาคม 2563 แม่น้องหลิวเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระแก้ว ตรวจเทียบกับศพนิรนามศพนี้วันที่ 20 มกราคม 2564 แม่น้องหลิวเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระแก้ว อีกครั้ง เพื่อตรวจเทียบยืนยันกับศพนิรนามศพนี้ เนื่องจากการเก็บตัวอย่างครั้งแรกไม่สมบูรณ์ และวันที่ 24 มกราคม 2564 สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันผลดีเอ็นเออย่างเป็นทางการว่า ดีเอ็นเอแม่น้องหลิว มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับศพหญิงนิรนามศพนี้

พ่อแม่ของน้องหลิว กล่าวด้วยความเศร้าโศกว่า ที่ผ่านมา ไม่คิดว่าลูกจะต้องเสียชีวิต ในใจคิดแต่ว่าลูกต้องไปทำงานที่ใดสักแห่ง และก็รอว่าสักวันลูกจะกลับมาที่บ้าน แต่หลังๆ เคยฝันเห็นลูกตัวดำ มาที่หน้าบ้าน เดินไปเดินมา จนกระทั่งมาทราบว่าลูกเสียชีวิต ก็เสียใจมาก และอยากรู้ว่า ทำไมคนร้ายจิตใจอำมหิต ทำไปเพื่ออะไร ฆ่าคนตายแล้วได้อะไร ส่วนตัวไม่ได้สงสัยใคร เชื่อมั่นว่าทางตำรวจจะนำตัวคนร้ายมาลงโทษได้ และอยากให้คนร้ายได้รับกรรมทางกฎหมายอย่างที่สุด ซึ่งไม่อโหสิกรรมให้คนร้าย ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว และล่าสุดคือวันที่ 28 มกราคม 2564 ครอบครัวน้องหลิวเดินทางมาแจ้งความเพิ่ม ที่ สภ.วัฒนานคร จึงดำเนินการสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รักษาราชการแทน ผบช.ภ.2 สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ตั้งคณะทำงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งขณะนี้ในทางคดีมีความคืบหน้าไปมาก และในตอนนี้ รอผลนิติวิทยาศาตร์ ส่วนประเด็นตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ ชู้สาว ชิงทรัพย์ และความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งยังไม่ได้ตัดประเด็นใดออก คาดว่าจะสามารถปิดคดีนี้ได้ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์นี้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ครม. เคาะตั้ง “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี”

ทำเนียบ 20 พ.ค.- ครม. เคาะ “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี” หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว คดีฮั้วเลือก สว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนหนึ่งเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า พ.ต.อ.ทวีใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก .-316 -สำนักข่าวไทย

คนงานตกหลุม

เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม เปิดหน้าดินค้นหา

20 พ.ค.- เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม ไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีหลานหลวง เจ้าหน้าที่ทำการเปิดหน้าดินค้นหาต่อเนื่อง เบื้องต้นยังไม่พบ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยว่า จากเหตุคนงานตกหลุมเสาเข็มขณะก่อสร้างรถไฟฟ้าปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (19 พ.ค. 2568) มีการปักเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) เพื่อป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน ทำระบบค้ำยันเบรสซิ่ง (Bracing) ป้องกันเหล็กชีทไพล์พังทลายจากแรงอัดมวลดิน ควบคู่กับการใช้รถแบ็กโฮเปิดหน้างานเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย เวลา 07.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.2568) ทีมช่างของผู้รับเหมาได้ทำเวลเลอร์ที่ระดับความลึก 6 เมตร เพื่อป้องกันเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) พังทลาย เนื่องจากพื้นที่ทำงานจำกัดจึงใช้อุปกรณ์ Auger ทำการเปิดหน้าดินหลุมดินด้านข้างเพื่อให้ดินสไลด์ออกด้านข้างแทน .-สำนักข่าวไทย