ปทุมธานี 13 ก.พ. – อดีตสามีและอดีตภรรยาต่างนำลูกน้องต่อยตีและยิงกันสนั่น แย่งกรรมสิทธิ์โรงงานที่นอน ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บ โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต พบหนึ่งในคนงานที่ร่วมก่อเหตุเสพยา ตำรวจจึงคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก
ตำรวจ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุยิงกันที่บริษัท เอ็น.บี.พิลโล่ แม็ทเทรส จำกัด ใน อ.ลาดหลุมแก้ว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตทฟูก ที่นอน แต่ปิดกิจการไปแล้ว ที่หน้าโรงงานพบนายสุวโรจน์ ตระกูลญาติทวี อายุ 53 ปี และ น.ส.อรอุมา ตระกูลญาติทวี อายุ 48 ปี เป็นสามีภรรยากัน โดยมี น.ส.ธัญยธรณ์ อัญมณีกิตติรัฐ อายุ 52 ปี อดีตภรรยาของนายสุวโรจน์ มีบาดแผลฟกช้ำที่ใบหน้า หัวบวมปูด เลือดออกจมูก กำลังยืนโต้เถียงกันอยู่ ทั้งสองฝ่ายอ้างว่าต่างคนต่างถูกทำร้าย และมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่กัน จนทำให้คนงานได้รับบาดเจ็บ และยังพบรอยคราบเลือดที่พื้นข้างรั้วและเสาเหล็ก พร้อมด้วยหัวกระสุนลูกซอง 3 เม็ดตกอยู่ จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามอาวุธปืน ผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายบอกว่าอยู่ที่กลุ่มคนงานที่ยืนอยู่ภายในโรงงาน ตำรวจต้องตะโกนบอกให้กลุ่มชายที่อยู่ในโรงงานประมาณ 5-6 คน เดินออกมาพร้อมชูมือขึ้น ก่อนเข้าตรวจค้นตัวทุกคน แต่ไม่พบอาวุธปืน พบเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายณัฐยศ เพาะปลูก อายุ 27 ปี ถูกไม้ลวกแทงที่แขนขวา และชายอีกคนไม่ทราบชื่อ ถูกไม้ตีที่กลางหลัง กู้ภัยจึงนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลปทุมธานี ส่วนนายอภิรักษ์ วัฒนานุวงศ์ อายุ 30 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ใบหน้าด้านขวาและหน้าขาขวา มีเพื่อนๆ นำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ตรวจค้นรถยนต์ของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย รถตู้โฟล์คสีน้ำเงิน ของนายสุวโรจน์ พบอาวุธปืนลูกซองยาวกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 79 นัด และอาวุธปืนขนาด .32 ออโตเมติก 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 59 นัด จึงยึดไว้ตรวจสอบ
ส่วนรถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีขาว ของ น.ส.ธัญยธรณ์ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังตรวจค้นตัวนายสรรพวัฒน์ เทียมเก่า อายุ 28 ปี ลูกน้องนายสุวโรจน์ พบยาไอซ์อยู่ในซองพลาสติกซุกกระเป๋ากางเกงด้านหลังจำนวนหนึ่ง ก่อนนำตัวทั้งสองฝ่าย พร้อมลูกน้อง มาสอบสวนที่โรงพัก
เบื้องต้นทราบว่าโรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างข้อพิพาทระหว่างนายสุวโรจน์ กับ น.ส.ธัญยธรณ์ อดีตภรรยา แต่ทั้งคู่มีการร้องขอเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จนมีการแจ้งความกันไปมาหลายครั้ง กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.พ. น.ส.ธัญยธรณ์ได้ไปลงบันทึกประจำวันว่าจะเข้าไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งปลูกอยู่ในเนื้อที่โรงงาน พร้อมคนติดตามรวมประมาณ 10 คน แต่เกรงว่าไม่ปลอดภัย จากนั้นเมื่อพากลุ่มคนติดตามเข้ามา ไม่นานก็มีกลุ่มของนายสุวโรจน์ พร้อมชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คน เข้ามาในโรงงานเช่นกัน จนเกิดเหตุยิงและทำร้ายกัน.-สำนักข่าวไทย