นครพนม 12 ก.พ.-ตำรวจระดมชุดสืบฯ ฝีมือดีเข้าสางคดีมือปืนบุกยิงผู้หมวดดุริยางค์กลางค่ายทหารที่นครพนม ให้น้ำหนักความขัดแย้งส่วนตัว ปมชู้สาว คาดเป็นคนใน ด้านผู้บังคับบัญชายืนยันไม่เคยมีอคติกับคนตาย
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้ปืนไม่ทราบชนิด ยิงใส่ร้อยโทรุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือ “หมวดบอล” อายุ 34 ปี ผู้บังคับหมวดดุริยางค์ ค่ายพระยอดเมืองขวาง อำเภอนครพนม 3 นัด บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.นครพนม เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งคนร้ายอาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปทางด้านหลังค่ายทหาร
เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) พลตำรวจตรีธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม สั่งชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติม บริเวณถนนจุดเกิดเหตุ ด้านหลังค่ายพระยอดเมืองขวาง มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม เพื่อคลี่คลายคดี ซึ่งจุดเกิดเหตุห่างจากบ้านพักประมาณ 300 เมตร ขณะผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน คขร 222 สงขลา กลับจากที่ทำงานเข้าบ้านพัก ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าไม่มีไฟส่องสว่าง ไม่มีเวรยามรักษาการเพราะอยู่ด้านหลัง คาดว่าคนร้ายใช้ปืนลูกโม่เพราะไม่พบปลอกกระสุน ส่วนเส้นทางหลบหนีมีช่องทางประตูรั้วลวดหนามออกด้านหลัง เชื่อมไปยังพื้นที่หมู่บ้านใน ตำบลกุรุคุ อำเภอเมืองนครพนม
สำหรับการชันสูตรพลิกศพผู้ตายจากสถาบันนิติเวช จังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นพบถูกปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ต้นคอด้านขวา 1 นัด และจุดใต้รักแร้ 2 นัด รวมทั้งหมด 3 นัด ส่วนผู้พบเห็นเหตุการณ์เบื้องต้น พบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนขี่เข้ามาก่อเหตุประกบยิงในระยะประชิด เชื่อเตรียมการมาก่อน อีกทั้งยังชำนาญเส้นทางหลบหนี สันนิษฐานว่าเป็นบุคคลภายในที่ก่อเหตุ เนื่องจากบุคคลภายนอกเข้าไปในค่ายทหารได้ยาก เพราะมีการตรวจสอบบุคคลเข้า-ออก ทางประตูด้านหน้า มีเพียงประตูด้านหลังที่เป็นช่องทางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังพบว่ากล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุชำรุดมานานหลายเดือน ส่วนประเด็นฆาตกรรมให้น้ำหนักความขัดแย้งส่วนตัวเรื่องปมชู้สาว รวมถึงยาเสพติด มากกว่าความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาด้านการทำงาน แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
ขณะที่นางสาวกณิศฐ์ฐา พันธุ์สวัสดิ์ หรือ “จ๋า” อายุ 32 ปี ภรรยาของ “หมวดบอล” เข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าหากสามีไปขัดแย้งกับใคร ขอยืนยันว่ามีความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาเพียงคนเดียว แต่ตนเองได้บอกกับตำรวจว่า คนร้ายอาจยิงผิดตัว เพราะรถจักรยานยนต์ที่สามีใช้นั้นพบว่าในค่ายมีหลายคัน และยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะมีความขัดแย้งกับหัวหน้าหน่วยจนถึงฆ่ากันตาย ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาวนั้น มองว่า สามีเป็นคนสนุก เข้ากับคนง่าย จึงมีลูกน้องและคนทั่วไปรักใคร่ อาจไปแชตไลน์พูดคุยกับแฟนของคนในค่าย จนถูกเข้าใจผิดทึกทักว่าไปมีอะไรกัน แต่ย้ำชัดว่าสามีไม่ใช่คนเจ้าชู้ และหากตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ สิ่งที่พาดพิงผู้บังคับบัญชาไปนั้นจะก้มกราบเท้าขอโทษทันที
ด้านพลตรีสามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 ให้ผู้สื่อข่าวเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพใดๆ ภายในค่ายพระยอดเมืองขวางอย่างเด็ดขาด
พลตรีสามารถ สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะไม่ใช่คนนอก แต่เป็นคนในหน่วยเพราะรู้ความเคลื่อนไหวของ “หมวดบอล” เชื่อว่าอาจมีมากกว่า 1 คน คือ คนดูต้นทาง และคนยิง ซึ่งรู้ทางหนีทีไล่ในค่าย และรู้ว่าด้านหลังค่ายมีการสร้างรั้วใหม่ จึงเชื่อว่าจะใช้ช่องทางนั้นหลบหนี ส่วนการทำงานที่ผ่านมาได้ว่ากล่าวตักเตือนผู้ตายบ้าง แต่ไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรง ซึ่งผู้ตายเป็นทหารที่ตนรักและชื่นชมในการทำงาน พร้อมย้ำว่าไม่เคยมีอคติกับลูกน้อง แม้มีกระแสข่าวขัดแย้งกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 สั่งตั้งกรรมการสอบเหตุยิง “หมวดบอล” พร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์และครอบครัวผู้ตาย โดยได้อำนวยความสะดวกตำรวจสอบสวนหาสาเหตุ.-สำนักข่าวไทย