สมุทรสาคร 8 ก.พ. – กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระดมตรวจหาภูมิคุ้มกันผู้อาศัยในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร 1,990 คน ทั้งในกลุ่มที่เคยติดและไม่เคยติดเชื้อโควิด-19 หวังใช้วางแผนป้องกันโรคโควิด-19 ในอนาคต
เจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเจ้าหน้าที่ รพ.รามาธิบดี 16 คน ร่วมกันตรวจหาภูมิคุ้มกันของผู้ที่พักอาศัยอยู่ในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ทั้งในส่วนของผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อ
ดร.วริษฐา แสวงดี นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกว่า ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีโครงการที่จะศึกษาปัจจัยทางภูมิคุ้มกันและพันธุกรรมของผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดการแสดงออกของโรคแตกต่างกัน ทำให้บางคนแสดงอาการ บางคนไม่แสดงอาการ ขณะที่บางคนอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาล โดยตั้งสมมติฐานไว้ว่าน่าจะมีปัจจัยบางอย่างในร่างกายของตัวมนุษย์ที่ส่งผลให้เกิดการแสดงออกของโรคไม่เหมือนกัน โดยวันนี้มาเก็บเลือดเพื่อส่งตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เคยติดเชื้อมาตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. 2564 รวมถึงผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อแล้วยังไม่เคยพบว่าป่วยด้วยอาการโควิด-19 ซึ่งผ่านมา 1 เดือนแล้ว คาดการณ์ว่าถ้าเคยได้รับเชื้อมาแล้วก็ควรจะต้องมีแอนติบอดีต่อเชื้อแล้ว แต่ก็ไม่มีทางรู้ว่าเขามีทุกคนหรือไม่ เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ ฉะนั้นจึงต้องทำการศึกษาเพื่อดูว่าในกลุ่มประชากรที่เป็นคลัสเตอร์เดียวกัน และกักตัวในที่เดียวกัน บางคนรับเชื้อ บางคนไม่ได้รับเชื้อ บางคนอยู่ด้วยกันเป็นเดือน แต่ทำไมไม่ติดเชื้อเลย ก็จะนำไปศึกษาตรงส่วนนั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ เพราะว่าโรคนี้แพร่ได้ง่ายมาก โดยจะตรวจในกลุ่มเป้าหมาย 1,990 คน ใช้เวลาตรวจ 3 วัน ถ้าเราตรวจแล้วพบว่าผู้ที่ถูกตรวจมีแอนติบอดีประมาณ 60-70% ก็สามารถช่วยลดการแพร่เชื้อของโรคได้ รวมถึงข้อมูลตรงนี้สามารถใช้สนับสนุนวางแผนในการจัดการเกี่ยวกับโรคนี้ในสมุทรสาครและจังหวัดอื่นๆ ได้อีกด้วย
ด้านนายมานะ เปาทุย สาธารณสุข อ.เมืองสมุทรสาคร ผู้ที่อยู่ดูแลตลาดกลางกุ้งมาตั้งแต่เริ่มประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ กระทั่งมีการเปิดให้เข้าออกได้ เปิดเผยถึงสภาพจิตใจของกลุ่มแรงงานที่ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ที่ถูกกักตัวในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมาว่า ในช่วงแรกพวกเขารู้สึกกังวลหลายเรื่อง ทั้งเรื่องโรคภัยและเรื่องการไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ แต่หลังจากที่มีการผ่อนผันปลดล็อกตลาดกุ้ง ทำให้ทุกคนมีสภาพจิตใจดีขึ้น และมีความใส่ใจในเรื่องการดูแลสุขภาพและป้องกันตัวเองมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย