กาญจนบุรี 7 ก.พ. – หนุ่มตามง้อขอคืนดีอดีตแฟนสาวไม่สำเร็จ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้านเสริมสวยที่อดีตแฟนสาวพักอาศัยอยู่ กระสุนถูกน้องสะใภ้เจ้าของร้านบาดเจ็บสาหัส
นี่เป็นร่องรายที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในร้านเสริมสวย เลขที่ 944/22 หมู่ 3 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ทราบชื่อคือ นางสาวชนิภรณ์ พรมมิ อายุ 23 ปี เป็นน้องสะใภ้ของเจ้าของร้าน และทำงานอยู่ที่ร้านเกิดเหตุด้วย ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .380 เข้าที่กลางหลัง 1 นัด กระสุนฝังใน
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชาย หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 4 ปลอก และร่องรอยของกระสุนบริเวณเสาหน้าบ้านและกระจกหน้าร้าน
น.ส.พรรณทนา แหวนครุฑ อายุ 27 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายอมรเทพ ลิ้มเจริญ เป็นอดีตแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์ สาเหตุเพราะระหว่างที่คบกันมักถูกนายอมรเทพทุบตีและทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหว แต่นายอมรเทพพยายามตามง้อขอคืนดี พอไม่ยอมคืนดีจึงตามมาราวี ข่มขู่ทั้งตนและครอบครัวมาตลอด เคยบุกไปฉุดตนที่หน้าโรงงานมาแล้วครั้งหนึ่ง และเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่่ผ่านมา บุกมาปีนร้านเสริมสวยที่ตนพักอาศัยอยู่กับพ่อ พี่สาว น้องชาย และน้องสะใภ้ รวมทั้งหลานสาว อายุ 2 เดือน จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าม่วง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และตำรวจได้นัดตนและอดีตแฟนหนุ่มไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 ก.พ.นี้ แต่ปรากฏว่าขณะเกิดเหตุตนนั่งกินหมูกระทะอยู่ภายในร้านกับน้องชายและน้องสะใภ้ ซึ่งน้องสะใภ้อุ้มลูกอายุ 2 เดือน มานั่งร่วมโต๊ะ ฝ่ายชายได้ขี่รถจักรยานยนต์บุกมาหาที่ร้าน และเปิดประตูเข้าไป พร้อมกับตะโกนถามว่าวันที่ 10 ทำไม ตนก็อธิบายว่าทางตำรวจนัดไกล่เกลี่ย แต่อีกฝ่ายอดีตแฟนหนุ่มไม่พอใจ ก่อนเดินกลับออกมาหน้าร้าน จากนั้นชักอาวุธปืนออกมายิงขู่ 1 นัด หลังจากได้ยินเสียงปืน พวกตนทั้งหมดพยายามวิ่งหลบเข้าหลังร้าน ระหว่างนั้นนายอมรเทพได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป และวกกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในร้าน กระสุนทะลุกระจกถูกน้องสะใภ้ที่กำลังอุ้มลูกหนี แต่หนีไม่พ้น จึงถูกกระสุนยิงเข้าที่กลางหลังบาดเจ็บ
ล่าสุด พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของนายอมรเทพ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย