จ่อแจ้ง 2 ข้อหาหนัก ผอ.โรงเรียนฉาว

สงขลา 5 ก.พ. – ตำรวจเตรียมแจ้ง 2 ข้อหาหนัก ผอ.โรงเรียนใน อ.เทพา จ.สงขลา หลังโชว์อาวุธปืนหน้าเสาธงต่อหน้าครูและนักเรียนจำนวนมาก


ความคืบหน้ากรณีผู้อำนวยการโรงเรียนที่ อ.เทพา จ.สงขลา โชว์อาวุธปืนหน้าเสาธงต่อหน้าครูและนักเรียนจำนวนมาก จากปัญหาส่วนตัวที่ถูกผู้ปกครองนักเรียนแจ้งความมีความสัมพันธ์กับนักเรียนหญิง ม.3 ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.เทพา เตรียมออกหมายเรียก ผอ.คนดังกล่าว มารับทราบข้อกล่าวหา โดยแยกคดีเป็น 2 ส่วน คือ คดีที่แม่เด็กเข้าแจ้งความในข้อหากระทำชำเราและพรากผู้เยาว์ ซึ่งได้สอบปากคำไปแล้วส่วนหนึ่ง และได้นำเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเทพา พร้อมประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็ก ซึ่งหากมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะออกหมายเรียก ผอ.มารับทราบข้อกล่าว ส่วนอีกคดี คือ เรื่องอาวุธปืน โดยเบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง แต่มีความผิดเรื่องพกพาอาวุธปืน เมื่อรวบรวมหลักฐานเสร็จก็จะเรียก ผอ.มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ส่วนเรื่องคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียล และมีการเขียนเชื่อมโยงกับคดีนี้ ผู้กำกับการ สภ.เทพา บอกว่า ได้สอบถามผู้เสียหายแล้ว ยืนยันไม่เคยถ่ายคลิปในลักษณะดังกล่าว จึงขอฝากเตือนไปยังผู้ที่นำมาแชร์ต่อ จะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์


ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สั่งการให้เร่งรัดสอบสวนหาความจริง พร้อมย้ำเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

มีรายงานว่า วันนี้ (5 ก.พ.) ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกพ่อของนักเรียนผู้เสียหายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนแม่เด็กได้นำหลักฐานซึ่งอ้างว่าเป็นแชตข้อความพูดคุยระหว่าง ผอ. กับผู้เสียหาย มอบให้ตำรวจ และมีการนำตัวผู้เสียหายไปชี้จุดต่างๆ ที่เคยพบกับ ผอ.ด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ไปพบผู้เสียหาย เพื่อดูแลสภาพจิตใจและหาทางช่วยเหลือเยียวยา

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า ก่อนที่แม่ของเด็กจะเข้าแจ้งความ ทั้งตัวพ่อและแม่ รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น เคยเข้าไปคุยกับ ผอ.มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งหาก ผอ.ยอมรับผิด ก็ขอเพียงแค่ให้ ผอ.ลาออกจากโรงเรียน และออกจากพื้นที่ไปเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ ผอ.ยังยืนกรานว่าไม่ได้ทำและเป็นคนดี สุดท้ายแม่ของเด็กจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง