fbpx

รวบสามีหึงโหดฆ่าภรรยาห่อผ้านวมทิ้งป่า

ภูเก็ต 4 ก.พ. – รวบสามีหึงโหดยิงภรรยาสาวเสียชีวิตคากระท่อม ก่อนห่อศพด้วยผ้านวมทิ้งอำพรางริมถนนสายป่าตอง-กะรน จ.ภูเก็ต


จากกรณีตำรวจ สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบผ้านวมมัดเหมือนกับการห่อศพ ถูกทิ้งไว้ริมถนนสายป่าตอง-กะรน ก่อนถึงสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชม. ทั้งนี้ ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตยืนยันว่าศพที่พบคือ นางโสภา หรือหนึ่ง ถนิมการญจน์ อายุ 39 ปี ชาว จ.แพร่

ต่อมาตำรวจตรวจสอบกระท่อมไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ริมถนนบ้านดอน-บ้านป่าสัก หมู่ 4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่ใช้ในการฆาตกรรมนางโสภา จากการตรวจสอบพบคราบเลือดแห้งกรังจำนวนมากภายในกระท่อม พนักงานสอบสวน สภ.กะรน รวบรวมหลักฐานต่างๆ เสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ขออนุมัติหมายจับนายสุชาติ กันภัย อายุ 42 ปี แฟนของนางโสภา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้นอำพรางศพ


ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมตัวนายสุชาติ หรือหมู กันภัย 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง” โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่ห้องพักที่ 19 ของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ก่อนนำส่งตัวมาดำเนินคดีที่ จ.ภูเก็ต

เบื้องต้นนายสุชาติให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมอีกว่าทำไปเพราะความหึงหวง กลัวนางโสภาปันใจให้ชายอื่น จึงมีปากเสียกัน ตัดสินใจทำร้ายร่างการนางโสภา ก่อนใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต และนำศพขึ้นรถสามล้อนำไปทิ้งในพื้นที่ ต.กะรน โดยมีนายอาซีด หัสการดี อายุ 38 ปี ร่วมกันในการนำศพไปทิ้ง

ต่อมาตำรวจสามารถติดตามตัวนายอาซีด หัสการดี ได้ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยนายอาซีดให้การยอมรับว่าได้ช่วยเหลือในการนำศพไปทิ้งจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ เมื่อทั้งสองมีปากเสียง กันตนเองได้เดินออกไปบริเวณอื่น แต่เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงรีบวิ่งกลับมาดู พบว่านายสุชาติยิงนางโสภาเสียชีวิตแล้ว นายสุชาติขอให้ตนช่วยพานำศพไปทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงกันตัวไว้เป็นพยานในคดีฆ่า และจะแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันอำพรางศพฯ” กับนายอาซีด


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน พร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำตัวนายสุชาติ และนายอาซีด ไปยังกระท่อมไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่บริเวณริมถนนบ้านดอน-บ้านป่าสัก หมู่ 4 ตรงข้ามปั๊มน้ำมันคาสเท็กซ์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมี พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ สิริคง รอง ผบก. พ.ต.อ.พีระพงษ์ ฉายอรุณ ผกก.สภ.กะรน และ ผกก.สภ.เชิงทะเล ร่วมในการทำแผนฯ มีประชาชนในพื้นที่มารอดูหน้าผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างส่งเสียงประณามการกระทำที่โหดร้ายของผู้ก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME