ชลบุรี 30 ม.ค. – โจรบุกเดี่ยวควงปืนจี้ชิงเงินร้านสะดวกซื้อ ได้เงินสด 20,000 กว่าบาท หลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งล่า
กล้องวงจรปิดจับภาพชายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ร้านสะดวกซื้อริมถนนสายบึง-บ่อวิน บังคับพนักงานนำเงินจากลิ้นชักใส่ถุงให้ได้ไป 20,000 กว่าบาท ก่อนวิ่งออกจากร้านหนีลอยนวล ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
กล้องวงจรปิดร้านสะดวกซื้อริมถนนสายบึง-บ่อวิน จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาวสีดำ หมวกไหมพรมสีดำ และใส่แมสก์สีดำ ใช้ปืนจี้บังคับพนักงานในร้าน นำเงินจากลิ้นชักใส่ถุงให้คนร้ายกว่า 20,000 กว่าบาท ก่อนหลบหนีไป
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ โดยตำรวจ สภ.หนองขาม ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้ปืนบุกจี้เงินร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งริมถนนสุขาภิบาล 8 เส้นทางสายบึง-บ่อวิน ช่วงชุนชนหนองหว้า หมู่ 7 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบพนักงานร้านสะดวกซื้อซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ เล่าว่า ช่วงเช้ามืดประมาณเกือบ 6 โมง ขณะพนักงานจัดของภายในร้านอยู่ มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน เดินเข้ามาเหมือนลูกค้าทั่วไป ไม่นานพอสบโอกาสก็ชักปืนพกแบบออโตเมติก จี้บังคับให้พนักงานที่มีแต่ผู้หญิง 2 คน ให้มารวมกันบริเวณเคาน์เตอร์ พร้อมให้พนักงานในร้านเปิดลิ้นชักแล้วส่งเงินมาให้ ด้วยความกลัวทุกคนจึงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ทำตามคนร้าย เพราะปืนที่คนร้ายถือส่ายไปมา ไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปลอม จึงนำเงินที่มีใส่ถุงผ้าสีขาว ประมาณ 20,000 กว่าบาท ให้กับคนร้ายไป ก่อนรีบเดินออกจากร้านแล้ววิ่งไปทันที เมื่อตั้งสติได้จึงรีบแจ้งตำรวจ
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณร้านเกิดเหตุ พบว่าคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณเกือบ 30 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซม. เดินมาจากฝั่งเขาขยายบ่อวิน แล้วเดินเข้าไปในร้านตามปกติ จากนั้นชักปืนพกออกมาขู่พนักงานให้มารวมกันที่เคาน์เตอร์ ก่อนขู่ให้พนักงานเปิดลิ้นชักแล้วส่งเงินมาให้ จากนั้นรีบออกจากร้านวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที
ด้านชาวบ้านที่ค้าขายอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไม่รู้ว่าคนร้ายมาจากทางไหน เนื่องจากกำลังตั้งร้าน แต่เห็นคนร้ายวิ่งออกมาจากร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว แล้วพนักงานในร้านก็วิ่งตามออกมาจึงทราบว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุ
เบื้องต้นตำรวจนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดไว้ตรวจสอบ พร้อมประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่ใกล้เคียง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายมาและวิ่งหลบหนีไป เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย