ราชบุรี 25 ม.ค.- ประชาชนจำนวนมากจากหลายจังหวัด แห่พิสูจน์ร่อนทองที่ลำคลองคั่นกลาง คลองชลประทาน หมู่ที่ 5 ต.ดอนตะโก เขตรอยต่อกับ ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี
ประชาชนจำนวนมากจากหลายจังหวัดเข้าพื้นที่ไปร่อนทองที่ลำคลองคั่นกลาง คลองชลประทาน หมู่ที่ 5 ต.ดอนตะโก เขตรอยต่อกับ ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมอุปกรณ์และน้ำยาไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นทองจริงหรือไม่ บางคนผิดหวังแต่บางคนโชคดี พบสร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ เหรียญเงิน เหรียญเสี้ยวสมัยโบราณ สตางค์รู รวมไปถึงวัตถุที่คล้ายทองคำบริสุทธิ์
ชาวโคราช วัย 65 ปี หวังใช้ประสบการณ์ในการร่อนทองคำกว่า 20 ปีของตัวเอง พิสูจน์ว่าเป็นทองคำจริงหรือไม่ เล่าว่า พื้นที่นี้มีหินควอตซ์ หินสีขาว และหินควอตซ์เนื้อลาวาอยู่จำนวนมาก แต่ยังตอบไม่ได้ว่ามีทองคำอยู่หรือไม่ต้องนำไปป่นเพื่อตรวจสอบละเอียด เพราะเป็นก้อนเล็ก ต้องร่อนและใช้น้ำยาตรวจสอบ ซึ่งจากเศษชิ้นส่วนที่ชาวบ้านร่อนได้ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ทองคำแท้ เป็นแร่ที่มีสีเหมือนทองคำ ที่มีชื่อเรียกว่า แร่ไพไรต์ (Pyrite) ไม่ใช่ทองคำ แต่หากพบหินควอตซ์จำนวนมากอาจจะเป็นแหล่งที่มีหินทองคำได้ ขณะที่ชาวบ้านจากนครปฐม นำเครื่องจับวัตถุโลหะลงไปหาสิ่งของที่อยู่ภายในน้ำได้แหวนทอง ซึ่งมีวัตถุที่คล้ายเพชร หรืออาจจะเป็นเม็ดพลอยที่ติดกับแหวนทองคำ พร้อมเหรียญ 10 และทุ่นตะกั่ว ซึ่งจะเอาไปให้ร้านทองตรวจดูว่าเป็นทองคำจริงหรือไม่
นอกจากนี้ ส.ส.ราชบุรีพรรคพลังประชารัฐก็ลงพื้นที่โดยจะประสานทางอำเภอเมืองราชบุรีและอุตสาหกรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่จากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา หน่วยงานสังกัดกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ ว่ามีแร่ทองคำจริงหรือไม่ และเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่บางส่วน เชื่อจากคำบอกเล่าของคนรุ่นเก่าว่าคลองนี้ เคยเป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งค้าขายในอดีต แต่ตั้งแต่อยู่มาก็ไม่เคยรู้ว่ามีทองจนมีการถมคลองสายนี้จนแคบลงและเป็นถนนเปลี่ยวอาจมีการจี้ปล้นทรัพย์จนทำให้พบสร้อยทองหรือแหวนในพื้นที่นี้ได้.-สำนักข่าวไทย