รวบหนุ่มหึงโหดจ่อยิงกิ๊กเมียสาหัส

ปทุมธานี 22 ม.ค.-รวบหนุ่มหึงโหด ไล่ยิงกิ๊กภรรยาบาดเจ็บสาหัส หลังเห็นนั่งรถมาด้วยกัน เผยติด GPS ที่รถ พบขับออกนอกเส้นทาง จึงตามไปดู เห็นออกจากโรงแรม จึงบันดาลโทสะก่อเหตุ


กรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธยิงนายสุจินต์ ทับทิมศรี อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในซอยมิตรบ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 3 นัด เข้าที่หัวไหล่ขวาทะลุหลัง ข้อมือขวาทะลุ และหลังเท้าขวาทะลุ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ขณะรถคนร้ายกลับมาเจอภรรยาของตัวเองมากับกิ๊ก จึงดักรอ ทำให้รถเก๋งผู้หญิงขับถอยหลังมาจากด้านหน้าโรงแรมซึ่งมีผู้ชายซึ่งเป็นคนเจ็บนั่งอยู่หน้ารถ จากนั้นมือปืนที่ขับตามมาก็จอดรถ และลงมาพร้อมใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจำนวนหลายนัด จนผู้ได้รับบาดเจ็บต้องวิ่งหนีลงไปในป่าหญ้าข้างร้านทำท่อไอเสีย

ล่าสุด พ.ต.อ.ชาติภัทร พิเนตรบูรณะ ผกก.สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี พร้อมกำลังนำหมายศาล จ.ปทุมธานี เข้าจับกุมนายวรวุฒิ “ออฟ” อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีพยายามผู้อื่น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนเลียบริมคลองประปา ซอยสันติภาพ ม.8 ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เดินทางมาสอบปากคำและไปควบคุมการทำแผนด้วยตัวเอง


เบื้องต้นจากการสอบสวน นายนรวุฒิ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนมีอาชีพขับรถตู้รับจ้างทั่วไป แต่ช่วงนี้ติดโควิดจึงไม่มีงานทำและพักอยู่ที่บ้านย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กับ น.ส.มณีรัตน์ ภรรยา พร้อมกับลูกอีก 2 คน โดย น.ส.มณีรัตน์ ภรรยาตน ทำงานอยู่แถวตลาดพูนทรัพย์ และทุกครั้งภรรยาก็จะขับรถเก๋งคันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถของตนมาทำงานประจำทุกวัน จนกระทั่งวันเกิดเหตุได้เปิดสัญญาณ GPS ซึ่งติดอยู่ที่รถคันที่ภรรยาตนขับ พบว่ารถที่ภรรยาตนใช้นั้นเคลื่อนที่ออกจากจุดที่เคยจอดอยู่เป็นประจำ ครั้งแรกก็เข้าใจว่าภรรยาตนคงจะขับออกไปทานข้าวตามร้านอาหาร ตนจึงขับรถเก๋งอีกคันขับตามมาวนหาแต่ไม่เห็นมีร้านอาหารภายในซอยมิตรบ้านกลาง และสัญญาณ GPS ก็มาหยุดอยู่โรงแรมแห่งหนึ่ง ทำให้ตนจอดรถข้างโรงแรมและคอยดักดู สักพักสัญญาณก็เคลื่อนและเห็นรถภรรยาตนขับออกมาจากโรงแรม โดยมองเห็นชายฉกรรจ์นั่งคู่มาด้วย จึงเกิดบันดาลโทสะและเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ก่อนจะก่อเหตุดังกล่าว และหลังก่อเหตุแล้วได้นำอาวุธปืนไปโยนทิ้งในป่าข้างทางภายในซอยโรงเรียนหอวังปทุมธานี

สำหรับด้านนายสุจินต์ผู้บาดเจ็บขณะนี้ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์พยาบาลที่ รพ.ปทุมธานี เบื้องต้นทราบว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปสอบปากคำอย่างละเอียดหาสาเหตุเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

โยนลูกลงทะเล

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ข่าวแนะนำ

อีสาน อุณหภูมิลด 3-5 องศาฯ ภาคเหนือ-ตะวันออก ลดลง 1-3 องศาฯ

กรมอุตุฯ คาดมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากจีน จะแผ่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน อีสานและทะเลจีนใต้ในวันนี้ ทำให้อีสานอุณหภูมิลดลง 3-5 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาฯ ส่วนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

เลือกตั้ง อบจ.

วิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง

นักวิชาการวิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง การเมืองไม่เหมือน 20 ปีที่แล้ว ชี้วาทกรรมแบบเดิมๆ ไร้ผล ชาวเน็ตแชร์สนั่นพร้อมถามดังๆ จะ “ไล่หนู ตีงู กี่โมง”

สินค้าตรุษจีน

พาณิชย์ส่ง จนท.ตรวจเข้มราคาสินค้าช่วงตรุษจีน

กรมการค้าภายในลงพื้นที่เยาวราช ตรวจราคาสินค้าช่วงตรุษจีน พบราคาวัตถุดิบใกล้เคียงปีที่แล้ว ย้ำผู้ประกอบการปิดป้ายให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา