นาทีชุลมุนคุมตัวผู้ต้องหาล่วงละเมิด ด.ญ. 11 ขวบ ทำแผนฯ

พระนครศรีอยุธยา 22 ม.ค.-ผู้ต้องหาวัย 35 ปี ที่ก่อเหตุลวงเด็กหญิง 11 ขวบ ไปล่วงละเมิดทางเพศ ถูกชาวบ้านพยายามเข้ารุมประชาทัณฑ์ขณะทำแผนฯ จากนั้นช่วงกลางดึก เกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้ต้องหาผูกคอตัวเองเสียชีวิตคาโรงพัก


ย้อนกลับไปเมื่อช่วงสายวานนี้ (21 ม.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง ได้คุมตัวนายนิรุต เขียวสวาท อายุ 35 ปี หรือ “เอ บางเดื่อ” ชาวตำบลบางเดื่อ อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในคดีที่ก่อเหตุล่อลวงเด็กหญิงอายุ 11 ปีไปล่วงละเมิดทางเพศ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มกราคม บริเวณพื้นที่รกร้างใกล้กับหลังโรงเรียนนครหลวง (พิบูลย์ประเสริฐวิทย์) ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง กระทั่งผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวได้ที่โรงอิฐแห่งหนึ่งในตำบลบางเดื่อ เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มกราคม และรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการทำแผนฯ ปรากฏว่ามีกลุ่มชาวบ้านที่รออยู่ก่อนหน้านั้น ตรงเข้าไปรุมเตะ ต่อย กระทืบผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวขึ้นรถตู้ และยกเลิกการทำแผนฯ จากนั้นได้พาตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่โรงพัก


จากนั้นเมื่อเวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่านายนิรุต ได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในห้องควบคุมผู้ต้องขัง สภ.นครหลวง โดยสภาพศพพบว่าสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีไข่ไก่ นอนเสียชีวิตในห้องควบคุมห้องแรก ห่มผ้าห่มสีชมพู สวมหน้ากากอนามัยสีดำ มีเชือกกางเกงผูกอยู่ที่คอ เจ้าหน้าที่จึงประสานแพทย์เวรเข้ามาชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับให้ญาติตรวจสอบกล้องวงจรปิด

ตำรวจให้ข้อมูลว่า นายนิรุต ไม่มีอาการเครียดให้เห็น และช่วงเย็นยังรับประทานอาหาร ก่อนเข้าไปอาบน้ำตามปกติ จากนั้นในเวลา 22.00 น. เศษ พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำผู้ต้องหา ก็ปรากฏว่านายนิรุต ได้ใช้เชือกกางเกงกีฬาผูกคอเสียชีวิต เจ้าหน้าที่พยายามแกะก็แกะไม่ออก

ด้านพี่สาวผู้ต้องหา บอกว่า ปกตินายนิรุต เป็นคนเงียบๆ เคยมีภรรยาแล้วเลิกไป จนมีภรรยาใหม่คนปัจจุบันอายุ 17 ปี ไม่คิดว่าจะมีพฤติกรรมอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ติดใจสาเหตุการตาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว


สำหรับ “เอ บางเดื่อ” ถูกแจ้งข้อหาทั้งพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้อวัยวะซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศ นอกจากนี้หลังเกิดคดีความปรากฏว่ามีผู้เสียหายที่เคยถูกนายนิรุต ทำอนาจาร เข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีกหลายคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”