ภูมิภาค 21 ม.ค. – จ.เชียงใหม่ เริ่มผ่อนคลายมาตรการให้ร้านหมูกระทะและชาบูขายแบบบุฟเฟ่ต์วันนี้เป็นวันแรก จากก่อนหน้านี้ผ่อนคลายการเปิดตลาดนัดและการนั่งกินดื่มในร้านอาหารได้จนถึงเวลา 22.00 น. หลังผ่านไป 9 วัน ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม
บรรยากาศร้านหมูกระทะและร้านชาบูหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ กลับมาคึกคักมากขึ้น โดยผู้ประกอบการมีการตระเตรียมข้าวของสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการแบบตักเอง หรือบุฟเฟ่ต์ ได้เป็นวันแรก หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ออกประกาศผ่อนคลายคำสั่งห้ามร้านชาบูและหมูกระทะ ไม่ให้ลูกค้าตักอาหารจากจุดบริการร่วมกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ปรากฏว่าตั้งแต่ 16.00 น. มีลูกค้ามาใช้บริการทันที เจ้าของบอกว่าดีใจที่ได้เปิดบริการแบบบุฟเฟ่ต์ เพราะจะมีลูกค้ามากขึ้น แต่มีมาตรการทั้งตรวจวัดคัดกรองและขอความร่วมมือให้ลูกค้าใส่ถุงมือพลาสติกทุกครั้งในการตักอาหารด้วย ส่วนลูกค้าก็ดีใจเช่นกันที่ได้กลับมากินบุฟเฟ่ต์อีกครั้ง เพราะได้มาเจอเพื่อนๆ และกินได้อร่อยขึ้น
เช่นเดียวกับตลาดนัดหลายแห่งในเชียงใหม่ เริ่มมาเปิดขายของกันแล้ว หลังผ่อนคลายมาตรการมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยแม่ค้าตลาดนัดบิ้กซี เอ็กตร้า บอกว่าดีใจมากที่ได้กลับมาขายของอีก ทำให้มีรายได้ เพราะช่วงที่ต้องปิดไปทำให้ชีวิตลำบาก
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา หลังเมื่อวานนี้มีกลุ่มประชาชนในนามชมรมศิลปินโคราช รวมตัวขอความช่วยเหลือจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ หลังคิวงานแสดงทุกงานถูกยกเลิก 100% ต้องสูญเสียรายได้เลี้ยงครอบครัว และตกงานอย่างสิ้นเชิง โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ตอบรับข้อเรียกร้อง เนื่องจากผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 10 คน รักษาหายทั้งหมดแล้ว และสามารถควบคุมพื้นที่ไม่ให้มีการแพร่ระบาดได้แล้ว
ล่าสุดมีมาตรการผ่อนคลายผู้ที่เดินทางมาจาก 28 จังหวัดสีแดง ให้เหลือจำกัดแค่ 5 จังหวัดควบคุมสูงสุด คือ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ที่เหลือ 23 จังหวัด ให้เดินทางไปมาได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่ขอให้เข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุข ต้องแจ้ง อสม. และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งผ่อนคลายงานกิจกรรมรวมกลุ่มผู้คน แต่เดิมห้ามไม่เกิน 100 คน ขยายเพิ่มเป็นไม่เกิน 300 คน แต่ทุกคนก็ยังต้องดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
เช่นเดียวกับ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 1 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก็มีมาตรการผ่อนคลายออกมาเมื่อวานนี้เช่นกัน โดยสถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ 78 แห่งใน 12 อำเภอ ให้เปิดดำเนินการได้ ภายใต้มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาด เช่น ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ ให้ผู้ประกอบการ พนักงานบริการ ผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นแต่ขณะรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่เพียงพอ ให้เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และระยะห่างระหว่างโต๊ะอย่างน้อย 2 เมตร ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด โดยคิดจำนวนใช้บริการตามขนาดพื้นที่เกณฑ์ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อผู้ใช้บริการ 1 คน นั่งหรือยืนเป็นกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน และไม่รวมโต๊ะกับกลุ่มอื่น ทั้งนี้ ให้ถือหลักเกณฑ์หลีกเลี่ยงติดต่อสัมผัสระหว่างกัน เช่น ไม่ให้พนักงานนั่งกับผู้ใช้บริการ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย