fbpx

โดนโจรขโมยหม้อ เจอเมียด่าซ้ำ

เชียงใหม่ 20 ม.ค.- โจรออกอาละวาด ตระเวนขโมยหม้อแกง กะละมัง ยันรองเท้า โดนไปหลายร้านในคืนเดียว ที่บ้านท่าข้าม ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ คาดอาจเป็นคนเก็บของเก่า


ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ ชายคนหนึ่งสวมหมวกไหมพรม เดินเข้ามาร้านขายก๋วยเตี๋ยว บริเวณบ้านท่าข้าม ตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่จะรื้อค้นสิ่งของในถังแช่ของสดหยิบหม้อขนมจีนน้ำเงี้ยว เทน้ำเงี้ยวใส่ถังขยะที่ตั้งอยู่หน้าร้าน แล้วหยิบหม้อสแตนเลสหลบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา  

นายธิติพัทธ์  คันนาพิสิฐกุล เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแชมป์ เล่าว่าแฟนสาวของตนกำลังจะนำน้ำเงี้ยวที่เก็บไว้ในถังน้ำแข็งหน้าร้านมาอุ่นกิน แต่ไม่พบหม้อใส่น้ำเงี้ยว พอแฟนสาวเหลือบไปเห็นถุงดำใส่ขยะ พบน้ำเงี้ยวถูกเททิ้ง จึงเข้าใจว่าตนเป็นคนนำน้ำเงี้ยวไปทิ้งก็ตรงเข้ามาต่อว่าอยู่นาน ตนก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำจึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่ามีคนร้ายขโมยหม้อและเทน้ำเงี้ยวทิ้งไว้ในถุงดำ จึงได้นำคลิบวีดีโอภาพเหตุการณ์โพสต์ลงโซเชียลเพื่อเตือนภัย      


ส่วนอีกจุดกล้องวงจรปิดร้านกำนันทีการสุรา บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะชายใส่หมวกไหมพรม เข้ามารื้อค้นสิ่งของหน้าร้านช่วงเวลาตี 5 ของวันเดียวกัน ได้ถังน้ำพลาสติก และกะละมังสแตนเลสที่ใช้ล้างแก้วน้ำ หลบหนีไป  

จากการสอบถามร้านค้าในย่านเดียวกันหลายรายพบว่าถูกคนร้ายขโมยข้าวของหลายอย่างทั้งถ้วยชาม หม้อนึ่งข้าว กะละมัง ไม่เว้นแต่รองเท้าที่เจ้าของบ้านถอดไว้หน้าบ้าน ซึ่งช่วงแรกชาวบ้านไม่ได้สนใจคิดว่าอาจจะเป็นสุนัขแถวบ้านคาบรองเท้าไปแทะเล่น แต่เมื่อมีการแชร์คลิปจากวงจรปิดทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่า ข้าวของในบ้านหายไปหลายครั้ง อาจจะเป็นฝีมือของบุคคลดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีใครแจ้งความดำเนินคดีเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่อยากเสียเวลาขึ้นโรงพัก ได้แต่เก็บข้าวของไว้ให้มิดชิดป้องกันการถูกขโมย   อย่างไรก็ตามคาดว่าคนร้ายที่ลงมือขโมยของอาจเป็นคนเก็บของเก่าที่ตระเวนเก็บของเก่าขาย เพราะหากเป็นคนร้ายทั่วไปต้องขโมยของที่มีมูลค่ามากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย