ชายวัย 65 ปีนอนเฝ้าสวนหนาวตาย

หนองคาย 13 ม.ค.- ชายวัย 65 ปี นอนเฝ้าสวนท้ายหมู่บ้านที่หนองคายเพียงลำพัง นอนเสียชีวิตระหว่างทางเดินเข้าห้องน้ำ คาดหนาวตาย


เมื่อเช้าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ฉลอง เลพล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุที่สวนท้ายหมู่บ้านยูงทอง ต.หาดคำ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคายและหน่วยกู้ภัยประจักษ์

ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน พบศพนายสำเนียง นนทพจน์ อายุ 65 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีแดง สวมกางเกงชั้นในสีฟ้า นอนเสียชีวิตอยู่ระหว่างทางเดินจากกระท่อมไปยังห้องน้ำ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายหรือต่อสู้ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง


จากการสอบถามลูกสาวของผู้ตายทราบว่า นายสำเนียง มานอนเฝ้าสวนเพียงลำพัง ในแต่ละวันตนจะนำข้าวมาส่งให้ แต่ในวันนี้เพื่อนบ้านเห็นผิดสังเกตว่าทำไมภายในกระท่อมยังเปิดไฟอยู่ จึงได้เดินมาดู ก็พบว่านายสำเนียงนอนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย เบื้องต้นคาดว่าจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ระหว่างที่นายสำเนียงเดินเข้าห้องน้ำเกิดช็อกจากสภาพอากาศหนาวเย็น หัวใจวายเฉียบพลันเสียชีวิตโดยไม่มีใครเห็น

หนุ่มใหญ่ดื่มสุราคลายหนาวอาเจียนเป็นเลือดดับคารถ

หนุ่มใหญ่ดื่มเหล้าคลายหนาวมานาน สุดท้ายกระเพาะทะลุดับคารถขนอ้อย เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ม.ค.64) พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิ์จักร สารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถบรรทุก 6 ล้อ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 82-3490 อุดรธานี โดยที่ท้ายกระบะบรรทุกอ้อยเต็มคันรถ ข้างในรถเบาะข้างคนขับพบศพทราบชื่อคือนายบุญมา ผลอ่อน อายุ 59 ปี ข้างตัวพบขวดเหล้า 1 ขวด และมีรอยอาเจียนเป็นเลือดออกมา


นางสวน ผลอ่อน ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้การว่า สามีเป็นคนชอบดื่มเหล้ามานานจนกระเพาะทะลุ ตนได้พาไปรักษา แต่กลับมาดื่มเหล้าอีก เพราะบอกว่าดื่มเพื่อคลายหนาว ซึ่งวันนี้สามีได้ออกดูไปลูกสาวกับลูกเขยตัดอ้อย แล้วขนอ้อยขึ้นท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งสามีได้ซื้อเหล้าไปดื่มด้วยแล้วลูกสาวกับลูกเขยก็ขับรถพาสามีกลับมาบ้าน แต่สามีบอกว่าจะนอนอยู่บนรถก่อน จึงได้ปล่อยให้สามีนอนอยู่บนรถ เพื่อให้หายเมาเสียก่อน โดยผิดสังเกตสามีไม่ลงมาจากรถ จึงได้ไปปลุก เพื่อจะให้สามีเข้าไปนอนอยู่ในบ้าน ซึ่งตอนแรกได้ร้องเรียกให้สามีลงมาจากรถ แต่ก็เงียบและไม่ขยับตัวเลย จึงได้เดินเข้าไปเปิดประตูรถพบว่าสามีได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งตำรวจมาทำการตรวจสอบ

แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต เบื้องต้นมีอาเจียนเป็นเลือดออกมา เนื่องจากกระเพาะทะลุ ดื่มเหล้ามาก ญาติเคยพาไปรักษาจนหาย แต่ก็ยังกลับมาดื่มอีก ทำให้กระเพาะทะลุอีก ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 2 ชั่วโมง โดยญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ