292 แรงงานข้ามชาติเฮ! กักตัวครบไม่พบเชื้อโควิด

ภูมิภาค 11 ม.ค. – รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อมผู้แทนจากหลายภาคส่วน ร่วมกันส่งตัวแรงงานข้ามชาติ 292 คน ที่กักตัวอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 1 กลับคืนสู่ตลาดกลางกุ้ง หลังจากกักตัวจนครบกำหนดระยะเวลา 10-14 วัน แล้วตรวจซ้ำไม่พบเชื้อโควิด-19 เป็นการยืนยันว่าแรงงานข้ามชาติทั้ง 292 คน ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ปลอดโควิด-19 แน่นอน


นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 15 ราย รวมยอดสะสมทั้งสิ้น 509 ราย เสียชีวิต 1 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 249 ราย อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มองว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดระยอง ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรคลงได้เมื่อใด แม้ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีใหม่เรื่อยมาจะพบว่ายอดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงต่อเนื่องมาตามลำดับ จนเหลือเพียงเลขตัวเดียวก็ตาม จนทำให้หลายฝ่ายโล่งใจว่าจะสามารถยับยั้งโรคร้ายลงได้โดยเร็ว แต่มาถึงวันนี้พบว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่พุ่งขึ้นไปเป็นเลข 2 ตัว ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสมในจังหวัดระยอง พุ่งทะลุ 500 ราย

จึงเป็นเหตุผลที่อยากขอความร่วมมือชาวระยองการ์ดอย่าตก เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่สามารถจะสรุปหรือไว้วางใจได้จังหวัดระยองยังเป็นพื้นที่เสี่ยง ส่วนการตรวจค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุกจึงยังต้องดำเนินการไปต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจค้นเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงแล้ว จำนวน 11,731 ราย


นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมผู้แทนจากหลายภาคส่วน ร่วมกันส่งตัวแรงงานข้ามชาติ 292 คน ที่ถูกกักตัวอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 1 สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร กลับคืนสู่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร หลังจากกักตัวจนครบกำหนดระยะเวลา 10-14 วัน แล้วตรวจซ้ำไม่พบเชื้อโควิด-19 เป็นการยืนยันว่าแรงงานข้ามชาติทั้ง 292 คน ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ปลอดโควิด-19 แน่นอน โดยทุกคนที่จะได้เดินทางกลับสู่ตลาดกลางกุ้ง ต่างรู้สึกดีใจ เร่งขนข้าวขนของขึ้นรถ พร้อมกันนี้ยังได้รับถุงยังชีพจากสภากาชาดไทย เป็นขวัญและกำลังใจแก่ทุกคน คนละ 1 ถุงอีกด้วย

เมื่อรถนำส่งกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 กลับมาสู่ตลาดกลางกุ้ง มีบรรดาเพื่อนๆ แรงงานข้ามชาติที่อยู่ในตลาดกลางกุ้ง มารอรับกันอย่างใจจดใจจ่อ และดีใจส่งเสียงเฮปรบมือลั่น เมื่อรถขับเข้ามาถึงภายในตลาด ซึ่งรอยยิ้มนั้นไม่เพียงแค่ปรากฏบนใบหน้าของแรงงานข้ามชาติที่ได้กลับมาเท่านั้น แต่รอยยิ้มยังมีให้เห็นบนใบหน้าของแรงงานที่มารอรับทุกคนกลับมาอีกด้วย

สำหรับขั้นตอนเมื่อกลับมาถึงตลาดกลางกุ้งแล้วจะต้องทำทะเบียนประวัติบุคคลเข้าพื้นที่ควบคุมพิเศษ โดยมีเจ้าหน้าที่ ตม.สมุทรสาคร คอยตรวจเอกสารที่แรงงานข้ามชาติจะต้องยื่น เพื่อกรอกข้อมูล ประกอบด้วย หนังสือรับรองผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากสำนักงานสาธารณสุข และพาสปอร์ต


ในส่วนของแรงงานข้ามชาติที่ยังคงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในตลาดกลางกุ้งคือ กลุ่มก้อนสีขาว หรือผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ มีอีกราวๆ 1,000 คน ส่วนผู้ที่ตรวจพบเชื้อประมาณ 700 คน ถูกแยกออกไปอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ตามกระบวนการคัดกรองโรค ส่วนที่เหลือคือผู้ที่ติดเชื้อแล้ว รักษาหายแล้ว จนมีภูมิคุ้มกันแล้ว และได้กลับมาอยู่ในตลาดกลางกุ้งอีกครั้ง ดังนั้น หากกลุ่มก้อนที่สีขาวที่จะต้องมีการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งในวันที่ 22 มกราคมนี้ ถ้าไม่มีการพบเชื้อเพิ่ม หรือพบเพียงเล็กน้อย จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าตลาดกลางกุ้งปลอดภัย

ที่จังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ระบุว่า การตรวจหาเชื้อบุคคลกลุ่มเสี่ยงของจังหวัด พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย ทั้งหมดเป็นหญิงจากโรงงานปลากระป๋อง จังหวัดสมุทรสาคร อายุ 41 ปี, 43 ปี, 55 ปี โดยทั้ง 3 ราย เดินทางไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋อง แบบไป-กลับ กระทั่งโรงงานปิด และทราบข่าวว่ามีเพื่อนในโรงงานติดเชื้อ ประกอบกับมีอาการน้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ และลิ้นสัมผัสไม่มีรส จึงเข้าทำการตรวจหาเชื้อและรักษา เมื่อวันที่ 8 มกราคม กระทั่งพบเชื้อดังกล่าว โดย 1 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า อีก 2 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านแหลม ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีได้สอบสวนโรคและนำผู้สัมผัสใกล้ชิดตรวจเชื้อและกักตัว โดยอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งบางส่วนผลเป็นลบ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เพื่อทำการตรวจซ้ำอีก

ส่วนการดูแลผู้รักษาหาย 12 ราย ที่เดินทางกลับบ้านแล้ว แม้จะรักษาหายแล้วแต่ยังคงต้องกักตัวเองอีก 14วัน โดยจังหวัดเพชรบุรีจะดูแลด้านอาหารการกินจนครบ 14 วัน และฝากถึงชุมชนว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสบายใจ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ของเพชรบุรี ผลการส่งตรวจทั้งหมด 9,726 ราย ไม่พบเชื้อ 9,423 ราย และกำลังรอผล 276 ราย รวมยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 27 ราย รักษาหายแล้ว 12 ราย กำลังรักษาอีก 15 ราย

ที่อุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แถลงผลการตรวจพบผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นชายอายุ 62 ปี เป็นชาวบ้านตำบลสว่าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ มีอาชีพขายผักตามตลาดนัดในอำเภอสว่างวีระวงศ์ มีอาการไอ หอบเหนื่อยมา 1 วัน และค่ำวันที่ 8 มกราคม เข้ารักษาตัวเบื้องต้นที่โรงพยาบาลอำเภอสว่างวีระวงศ์ และถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลวารินชำราบ เช้าวันที่ 9 มกราคม แพทย์สงสัยจะติดเชื้อโควิด-19 จึงนำเข้าห้องแยกโรค พร้อมเก็บหาเชื้อส่งตรวจ กระทั่งดึกผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 อาการล่าสุดช่วงเที่ยงวานนี้ยังรู้สึกตัวดี จากนี้ต้องเฝ้าระวังจะมีอาการใดแทรกซ้อนหรือไม่

สำหรับประวัติเสี่ยงการติดเชื้อคือ ช่วงวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2564 ลูกชายและครอบครัว ซึ่งทำงานอยู่บริษัทรถยนต์ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางกลับมาเยี่ยมและพักที่บ้าน ระหว่างนั้นผู้ป่วยยังไปขายผักตามปกติ และวันที่ 7 มกราคม ไปร่วมงานแต่งที่ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอพิบูลมังสาหาร และเริ่มป่วยในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทีมสอบสวนโรคจึงโทรศัพท์แจ้งลูกชายและครอบครัวที่เดินทางมาเยี่ยมในช่วงปีใหม่ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อในภูมิลำเนาที่อยู่ ส่วนภรรยา รวมกับคนในครอบครัว 4 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอวารินชำราบ 26 คน รวมทั้งผู้ป่วยที่มานอนรักษาตัวด้วยกัน 5 คน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอสว่างวีระวงศ์ 10 คน ให้กักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน

สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยที่เดินทางไปขายผัก ร่วมทั้งงานแต่ง รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ใกล้บ้าน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการในระยะนี้ด้วย ทุกคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้านก่อน หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากตลอดเวลา แต่ดีที่สุดคือให้อยู่กับบ้านไปก่อน

ส่วนที่เชียงใหม่ เมื่อเย็นวานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) จังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ว่าเชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย เป็นผู้ป่วยรายที่ 64 ของเชียงใหม่ เบื้องต้นสอบสวนโรคพบว่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง รอแถลงผลสอบสวนโรค รวมถึงรายละเอียดไทม์ไลน์ผู้ป่วยต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ร่วมวงถก สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เลื่อนวาระงาน เพื่อร่วมประชุม สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเป็น 11.00 น. เพื่อมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มารอต้อนรับ ซึ่งการร่วมประชุม กับ สมช. ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าและเป็นการมาร่วมประชุมกับ สมช. เป็นครั้งแรก .-316 -สำนักข่าวไทย

โคราชพบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19

นครราชสีมา 6 มิ.ย. – จ.นครราชสีมา พบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19 เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 เผยตัวเลขเก็บศพโควิด เดือนนี้ 8 ราย ส่วนยอดติดเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน 68 วันเดียวเพิ่ม 2 หมื่นคน นายชัยสิทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 โพสต์ภาพลงในโซเชียล ขณะอาสากู้ภัย “ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หรือ ฮุก 31” กำลังช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากโรงพยาบาล ไปฌาปนกิจ พร้อมข้อความเตือน “ระวังกันนะครับ ให้ระวังกัน เพราะช่วงนี้ติดเชื้อกันเยอะ คนที่ไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ไม่เกี่ยงอายุ วันนี้ มีตั้งแต่ไม่กี่ขวบ จนถึงสูงอายุ ทีมงานฮุก 31 บ้านหลังสุดท้าย ทุกๆ เขตรับผิดชอบ เริ่มมีภารกิจถี่ขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. […]

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]