292 แรงงานข้ามชาติเฮ! กักตัวครบไม่พบเชื้อโควิด

ภูมิภาค 11 ม.ค. – รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อมผู้แทนจากหลายภาคส่วน ร่วมกันส่งตัวแรงงานข้ามชาติ 292 คน ที่กักตัวอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 1 กลับคืนสู่ตลาดกลางกุ้ง หลังจากกักตัวจนครบกำหนดระยะเวลา 10-14 วัน แล้วตรวจซ้ำไม่พบเชื้อโควิด-19 เป็นการยืนยันว่าแรงงานข้ามชาติทั้ง 292 คน ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ปลอดโควิด-19 แน่นอน


นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 15 ราย รวมยอดสะสมทั้งสิ้น 509 ราย เสียชีวิต 1 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 249 ราย อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มองว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดระยอง ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรคลงได้เมื่อใด แม้ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีใหม่เรื่อยมาจะพบว่ายอดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงต่อเนื่องมาตามลำดับ จนเหลือเพียงเลขตัวเดียวก็ตาม จนทำให้หลายฝ่ายโล่งใจว่าจะสามารถยับยั้งโรคร้ายลงได้โดยเร็ว แต่มาถึงวันนี้พบว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่พุ่งขึ้นไปเป็นเลข 2 ตัว ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสมในจังหวัดระยอง พุ่งทะลุ 500 ราย

จึงเป็นเหตุผลที่อยากขอความร่วมมือชาวระยองการ์ดอย่าตก เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่สามารถจะสรุปหรือไว้วางใจได้จังหวัดระยองยังเป็นพื้นที่เสี่ยง ส่วนการตรวจค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุกจึงยังต้องดำเนินการไปต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจค้นเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงแล้ว จำนวน 11,731 ราย


นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมผู้แทนจากหลายภาคส่วน ร่วมกันส่งตัวแรงงานข้ามชาติ 292 คน ที่ถูกกักตัวอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 1 สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร กลับคืนสู่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร หลังจากกักตัวจนครบกำหนดระยะเวลา 10-14 วัน แล้วตรวจซ้ำไม่พบเชื้อโควิด-19 เป็นการยืนยันว่าแรงงานข้ามชาติทั้ง 292 คน ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ปลอดโควิด-19 แน่นอน โดยทุกคนที่จะได้เดินทางกลับสู่ตลาดกลางกุ้ง ต่างรู้สึกดีใจ เร่งขนข้าวขนของขึ้นรถ พร้อมกันนี้ยังได้รับถุงยังชีพจากสภากาชาดไทย เป็นขวัญและกำลังใจแก่ทุกคน คนละ 1 ถุงอีกด้วย

เมื่อรถนำส่งกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 กลับมาสู่ตลาดกลางกุ้ง มีบรรดาเพื่อนๆ แรงงานข้ามชาติที่อยู่ในตลาดกลางกุ้ง มารอรับกันอย่างใจจดใจจ่อ และดีใจส่งเสียงเฮปรบมือลั่น เมื่อรถขับเข้ามาถึงภายในตลาด ซึ่งรอยยิ้มนั้นไม่เพียงแค่ปรากฏบนใบหน้าของแรงงานข้ามชาติที่ได้กลับมาเท่านั้น แต่รอยยิ้มยังมีให้เห็นบนใบหน้าของแรงงานที่มารอรับทุกคนกลับมาอีกด้วย

สำหรับขั้นตอนเมื่อกลับมาถึงตลาดกลางกุ้งแล้วจะต้องทำทะเบียนประวัติบุคคลเข้าพื้นที่ควบคุมพิเศษ โดยมีเจ้าหน้าที่ ตม.สมุทรสาคร คอยตรวจเอกสารที่แรงงานข้ามชาติจะต้องยื่น เพื่อกรอกข้อมูล ประกอบด้วย หนังสือรับรองผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากสำนักงานสาธารณสุข และพาสปอร์ต


ในส่วนของแรงงานข้ามชาติที่ยังคงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในตลาดกลางกุ้งคือ กลุ่มก้อนสีขาว หรือผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ มีอีกราวๆ 1,000 คน ส่วนผู้ที่ตรวจพบเชื้อประมาณ 700 คน ถูกแยกออกไปอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ตามกระบวนการคัดกรองโรค ส่วนที่เหลือคือผู้ที่ติดเชื้อแล้ว รักษาหายแล้ว จนมีภูมิคุ้มกันแล้ว และได้กลับมาอยู่ในตลาดกลางกุ้งอีกครั้ง ดังนั้น หากกลุ่มก้อนที่สีขาวที่จะต้องมีการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งในวันที่ 22 มกราคมนี้ ถ้าไม่มีการพบเชื้อเพิ่ม หรือพบเพียงเล็กน้อย จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าตลาดกลางกุ้งปลอดภัย

ที่จังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ระบุว่า การตรวจหาเชื้อบุคคลกลุ่มเสี่ยงของจังหวัด พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย ทั้งหมดเป็นหญิงจากโรงงานปลากระป๋อง จังหวัดสมุทรสาคร อายุ 41 ปี, 43 ปี, 55 ปี โดยทั้ง 3 ราย เดินทางไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋อง แบบไป-กลับ กระทั่งโรงงานปิด และทราบข่าวว่ามีเพื่อนในโรงงานติดเชื้อ ประกอบกับมีอาการน้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ และลิ้นสัมผัสไม่มีรส จึงเข้าทำการตรวจหาเชื้อและรักษา เมื่อวันที่ 8 มกราคม กระทั่งพบเชื้อดังกล่าว โดย 1 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า อีก 2 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านแหลม ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีได้สอบสวนโรคและนำผู้สัมผัสใกล้ชิดตรวจเชื้อและกักตัว โดยอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งบางส่วนผลเป็นลบ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เพื่อทำการตรวจซ้ำอีก

ส่วนการดูแลผู้รักษาหาย 12 ราย ที่เดินทางกลับบ้านแล้ว แม้จะรักษาหายแล้วแต่ยังคงต้องกักตัวเองอีก 14วัน โดยจังหวัดเพชรบุรีจะดูแลด้านอาหารการกินจนครบ 14 วัน และฝากถึงชุมชนว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสบายใจ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ของเพชรบุรี ผลการส่งตรวจทั้งหมด 9,726 ราย ไม่พบเชื้อ 9,423 ราย และกำลังรอผล 276 ราย รวมยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 27 ราย รักษาหายแล้ว 12 ราย กำลังรักษาอีก 15 ราย

ที่อุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แถลงผลการตรวจพบผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นชายอายุ 62 ปี เป็นชาวบ้านตำบลสว่าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ มีอาชีพขายผักตามตลาดนัดในอำเภอสว่างวีระวงศ์ มีอาการไอ หอบเหนื่อยมา 1 วัน และค่ำวันที่ 8 มกราคม เข้ารักษาตัวเบื้องต้นที่โรงพยาบาลอำเภอสว่างวีระวงศ์ และถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลวารินชำราบ เช้าวันที่ 9 มกราคม แพทย์สงสัยจะติดเชื้อโควิด-19 จึงนำเข้าห้องแยกโรค พร้อมเก็บหาเชื้อส่งตรวจ กระทั่งดึกผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 อาการล่าสุดช่วงเที่ยงวานนี้ยังรู้สึกตัวดี จากนี้ต้องเฝ้าระวังจะมีอาการใดแทรกซ้อนหรือไม่

สำหรับประวัติเสี่ยงการติดเชื้อคือ ช่วงวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2564 ลูกชายและครอบครัว ซึ่งทำงานอยู่บริษัทรถยนต์ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางกลับมาเยี่ยมและพักที่บ้าน ระหว่างนั้นผู้ป่วยยังไปขายผักตามปกติ และวันที่ 7 มกราคม ไปร่วมงานแต่งที่ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอพิบูลมังสาหาร และเริ่มป่วยในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทีมสอบสวนโรคจึงโทรศัพท์แจ้งลูกชายและครอบครัวที่เดินทางมาเยี่ยมในช่วงปีใหม่ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อในภูมิลำเนาที่อยู่ ส่วนภรรยา รวมกับคนในครอบครัว 4 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอวารินชำราบ 26 คน รวมทั้งผู้ป่วยที่มานอนรักษาตัวด้วยกัน 5 คน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอสว่างวีระวงศ์ 10 คน ให้กักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน

สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยที่เดินทางไปขายผัก ร่วมทั้งงานแต่ง รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ใกล้บ้าน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการในระยะนี้ด้วย ทุกคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้านก่อน หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากตลอดเวลา แต่ดีที่สุดคือให้อยู่กับบ้านไปก่อน

ส่วนที่เชียงใหม่ เมื่อเย็นวานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) จังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ว่าเชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย เป็นผู้ป่วยรายที่ 64 ของเชียงใหม่ เบื้องต้นสอบสวนโรคพบว่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง รอแถลงผลสอบสวนโรค รวมถึงรายละเอียดไทม์ไลน์ผู้ป่วยต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]