หนุ่มสุราษฎร์ฯ กักตัวเองในสวนปาล์ม แถมทำสวนไปด้วย

สุราษฎร์ธานี 10 ม.ค. – หนุ่มวัย 23 ปี กลับจากสอบตำรวจที่ กทม. กักตัวเองในสวนปาล์ม ใช้เวลาว่างทำสวนปาล์ม แทงปาล์ม ตกแต่งสวนเพียงลำพัง ห้ามใครยุ่ง


นายไกรภพ พัฒนเดชากุล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 5 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ที่มีจิตสำนึกดีและมีความรับผิดชอบต่อสังคมสูง เพิ่งเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง เข้าสู่กระบวนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยทันทีที่กลับถึงบ้าน ได้มุ่งหน้าไปยังบ้านพักในสวนปาล์มทันที ตามที่ได้แจ้งไว้กับพ่อแม่ตั้งแต่ก่อนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไว้แล้วว่า ระหว่างกักตัว 14 วัน ขอทำสวนปาล์ม ให้พ่อกับแม่เตรียมสถานที่ไว้ด้วย

นายไกรภพ บอกว่า ตนเองกลับจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง หลังจากสอบตำรวจ สอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกาย โดยได้เดินทางไปสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 มกราคม และเดินทางกลับในวันที่ 8 มกราคม เมื่อกลับถึง จ.สุราษฎร์ธานี ได้เข้าสู่กระบวนการกักตัวเองทันที ภายในที่พักกลางสวนปาล์มของครอบครัว และระหว่างที่กักตัวได้ทำสวนปาล์ม เก็บทางปาล์ม และแทงปาล์มไปในตัวด้วย ซึ่งขอทำคนเดียวทั้งสวน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และห้ามใครเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 2-3 ไร่ เด็ดขาด ส่วนอาหารการกิน พ่อแม่จะทำใส่ถุงพลาสติกมาแขวนไว้หน้าที่พัก และตรงจุดที่แขวนอาหารจะมีแอลกอฮอล์ไว้สำหรับให้คนที่มาส่งอาหารได้ล้างมือ ก่อนที่จะกลับเข้าบ้าน เพื่อความปลอดภัย


และในแต่ละวันมีทีมเจ้าหน้าที่รัฐ ประกอบด้วย ทีมผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจป้อมป่าเว กรรมการหมู่บ้าน ทีมพยาบาลจาก รพ.สต. และ อสม. ร่วมเข้ามาตรวจวัดไข้เป็นประจำทุกวัน วันละ 3 รอบ เช้า กลางวัน เย็น ซึ่งตอนนี้กักตัวมา 3 วันแล้ว อาการปกติดี

พ่อค้าผักติดโควิด อีก 26 คน รวม จนท.รพ.ต้องถูกกักตัวด้วย

ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แถลงผลการตรวจพบผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นชายอายุ 62 ปี มีอาชีพขายผักตามตลาดนัดใน อ.สว่างวีระวงศ์ พบเชื้อโควิด-19 ประวัติเสี่ยงติดเชื้อ คือ ช่วงวันที่ 26 ธันวาคม 2563 – 1 มกราคม 2564 ลูกชายและครอบครัว ซึ่งทำงานอยู่บริษัทรถยนต์ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เดินทางกลับมาเยี่ยมและพักที่บ้าน ระหว่างนั้นผู้ป่วยยังไปขายผักตามปกติ และวันที่ 7 มกราคม ไปร่วมงานแต่งที่ ต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร ก่อนจะเริ่มป่วยในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทีมสอบสวนโรคจึงได้โทรศัพท์แจ้งบุตรชายและครอบครัวที่เดินทางมาเยี่ยมในช่วงปีใหม่ ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อในภูมิลำเนาที่อยู่ ส่วนภรรยา กับคนในครอบครัว 4 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อ.วารินชำราบ 26 คน รวมทั้งผู้ป่วยที่มานอนรักษาตัวด้วยกัน 5 คน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อ.สว่างวีระวงศ์ 10 คน ให้กักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย