ภูเก็ต 9 ม.ค.-ชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 3 ตรวจสอบเรือสินค้าเข้าจอดเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกอ่าวมะขาม จ.ภูเก็ต โดยไม่ได้รับอนุญาต ช่วยเหลือลูกเรือไทย 6 คน ถูกบังคับใช้แรงงานบนเรือ พร้อมดำเนินคดีกับเจ้าของเรือ
โดยเรือสินค้าที่ทัพเรือภาคที่ 3 นำชุดปฏิบัติการพิเศษขึ้นตรวจสอบมีชื่อว่า เรือสินค้า M.V.EXPRESS 6 เข้าจอดประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าจอดราชอาณาจักรไทย พร้อมทั้งช่วยเหลือลูกเรือคนไทยซึ่งถูกบังคับใช้แรงงานในเรือ จำนวน 6 คน ณ จุดจอดเรือสินค้า อ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต
โดยการปฏิบัติการดังกล่าว เป็นการบูรณาการกำลังจากหน่วยงานใน ศรชล.ภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต , ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าเรือภูเก็ต , ด่านศุลกากรภูเก็ต , กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงจังหวัดภูเก็ต และด่านตรวจประมงภูเก็ต ในการดำเนินการเข้าตรวจสอบ
โดยผลการตรวจพบว่า เรือดังกล่าวชื่อ เรือ M.V. EXPRESS 6 ถือสัญชาติมองโกเลีย ตัวเรือความยาว 90 เมตร มีขนาดระวางขับน้ำ 2,243 ตันกรอส โดยมีบริษัท TIAN HENG IMPORT FOOD COMPANY เป็นเจ้าของ มีตั้งอยู่ ณ ประเทศฮ่องกง โดยได้ประกอบกิจการนำเข้าและขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ ขณะทำการตรวจสอบ มีนายสันตกาญจน์ ทองผ่องพรรณ สัญชาติไทย เป็นกัปตันเรือ และมีลูกเรือรวมทั้งหมด 18 คน ประกอบด้วย สัญชาติไทย 6 คน สัญชาติอินโดนีเซีย 7 คน สัญชาติเมียนมา 1 คน และสัญชาติจีน 4 คน
ทั้งนี้ ศรชล.ภาค 3 ได้ติดตามพฤติกรรมเรือดังกล่าวพร้อมทั้งทำการสืบสวนทางลับมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทราบว่าลูกเรือซึ่งเป็นคนไทยทั้ง 6 คนนั้น ถูกบังคับใช้แรงงานบนเรือโดยไม่ได้รับค่าจ้างมาเป็นเวลานาน จึงติดตามความเคลื่อนไหวของเรือผ่านระบบติดตามเรือของ ศรชล. และพบว่าเรือดังกล่าวได้เดินทางเข้าจอด ณ จุดจอดเรือสินค้า อ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา จึงได้บูรณาการกำลังเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือลูกเรือสินค้าได้ในที่สุด
สำหรับในการดำเนินคดีนั้น สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้แจ้งข้อหาว่าเรือไม่แจ้งขออนุญาตเข้าจอดในน่านน้ำไทย ก่อนทำการจอดเรือ ซึ่งผิดตาม พรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ในอัตราโทษปรับ 5,000 บาท
สำหรับการดำเนินการต่อไป ศรชล.ภาค 3 จะดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และเน้นย้ำห้ามลูกเรือทั้งหมดลงจากเรือเด็ดขาด ตามนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งนี้ได้ควบคุมและติดตามเรือดังกล่าวผ่านระบบติดตามเรือ ศรชล. ต่อไป.-สำนักข่าวไทย