ภูมิภาค 7 ม.ค. – น้ำท่วมใต้ขยายวงกว้างหลายจังหวัด สงขลาท่วมหนัก 2 อำเภอ คือ นาทวี และสะบ้าย้อย ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ส่วนที่ปัตตานี ท่วมระลอก 2 หลังเขื่อนบางลางเปิดประตูระบายน้ำ เช่นเดียวกับนราธิวาส น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี
สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมใน 2 อำเภอคือ อ.นาทวี กับ อ.สะบ้าย้อย โดยที่ อ.สะบ้าย้อย ตั้งแต่เย็นวานนี้ น้ำท่วมบ้านหลายร้อยหลัง ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตรกระทั่งเมื่อคืนนี้ มวลน้ำจากเทือกเขาน้ำค้าง ได้ไหลบ่าเข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย สร้างความโกลาหลให้กับชาวบ้านในเขตเทศบาล ต้องเร่งขนย้ายข้าวของและบางส่วนต้องออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังติดสถานการณ์ตลอดทั้งคืน โดยน้ำไหลเข้าท่วมถนนอย่างน้อย 3 สาย เป็นเส้นทางเข้าออกตัวเมืองสะบ้าย้อย และสวนสาธารณะ แต่ยังไม่เข้าถึงพื้นที่ชั้นในตัวเมืองที่เป็นย่านการค้า สำหรับเส้นทางที่น้ำท่วม เช่น ถนนราษฎร์บำรุง เส้นที่ไปยัง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี น้ำยังท่วมสูงรถเล็กผ่านไม่ได้ ส่วนเส้นทาง สะบ้าย้อย-ยะลา แม้น้ำจะท่วมแต่ก็ยังสัญจรได้ ภาพรวมจนถึงขณะนี้แม้ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังเฝ้าระวังตลอดเวลา
ที่จังหวัดปัตตานี สถานการณ์น้ำท่วมระลอก 2 หลังเชื่อนบางลางเปิดประตูระบายน้ำทำให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนที่อยู่ติดริมแม่น้ำปัตตานี โดยเฉพาะ ต.ปะกาฮะรัง ต.บาราโฮะ ของ อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และเป็นพื้นที่รับน้ำ น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ระดับน้ำเกือบ 1 เมตร ถนนสายหลักทางเข้าหมู่บ้าน ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านบางรายนำเรือท้องแบนมาใช้เดินทางเข้าออกหมู่บ้าน คาดว่า 1- 2 วันนี้ จะมีน้ำจากจังหวัดยะลาไหลลงมาสมทบอีกต่อเนื่อง จะทำให้ในพื้นที่ดังกล่าว มีระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดน้ำท่วมสูงเป็นระลอกที่ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ออกหนังสือประกาศแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำปัตตานี ใน 3 อำเภอได้แก่ อ.เมือง หนองจิก และแม่ลาน ให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน
มวลน้ำป่า จากอ.สุคิริน และชายแดนบ้านบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ไหลทะลักลงมาสมทบกับระดับน้ำเดิมที่ท่วมสูงและอิ่มตัวอยู่ก่อนแล้ว ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่บ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนและบ้านเรือน ตลอดแนวสองฟากฝั่งริมแม่น้ำในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกขยายวงกว้างขึ้น ระดับน้ำริมตลิ่งท่วมสูงกว่า1.70 ม.ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 30 ปี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนเจริญเขต หน้าโรงแรมมารีน่าซึ่งอยู่ใจกลางเมืองสุไหงโก-ลก มีน้ำป่าที่ล้นมาจากแนวริมตลิ่งเข้าท่วมถนนบริเวณถนนหน้าโรงแรมสูง 25 ซม. บริเวณลานหน้าศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ รวมถึงภายในอาคารศาลเจ้า มีน้ำท่วมสูงกว่า 1.20 ม. เจ้าหน้าที่ศาลเจ้าต้องขนย้ายสิ่งของมีค่า วัตถุมงคล และของบูชารวมถึงองค์เจ้าแม่ ซึ่งมีอายุมากกว่า 300 ปี ขึ้นไปเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัยจากน้ำ
ส่วนที่ศูนย์อพยพผู้ประสพอุทกภัย โรงเรียนเทศบาล4 ขณะนี้มีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบอพยพ เข้ามาพักอาศัยอยู่ในศูนย์แล้ว จำนวน170 คน 49 ครัวเรือน บรรยากาศโดยรวม ยังคงมีเมฆฝนดำทะมึนปกคลุมทั่วพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ระดับน้ำริมแม่น้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ในพื้นที่อ.สุคิริน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำยังคงมีฝนตกทั่วพื้นที่ มีมวลน้ำป่าไหลทะลักลงสู่แม่น้ำตลอดเวลา โดยยังคงมีประกาศให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่าวไกล้ชิดต่อไปอีก
ที่จังหวัดยะลา หลังจากวานนี้เขื่อนบางลางได้ เปิดประตูระบายน้ำล้นสปิลเวย์ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเขื่อน ผนวกกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้วันนี้ เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านที่อาศัยติดกับแม่น้ำปัตตานี คือ ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา มวลน้ำจากเขื่อนได้ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรเสียหาย ระดับน้ำสูง 50-70 เซนติเมตร
ที่ อ.รามัน น้ำในแม่น้ำสายบุรีเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนรหลายหลังคาเรือน ใน ต.บาลอ ต.อาซ่อง ต.ธ่าทง ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของ รถยนต์ สัตว์เลี้ยง นำมาอาศัยบนที่พักชั่วคราวบริเวณหัวสะพานแม่น้ำสายบุรี ริมถนนสายรามัน ทุ่งขมิ้น ชาวบ้านต้องใช้เรือพายเดินทางเข้าออก ระหว่างบ้านกับที่พักชั่วคราว และน้ำท่วมกำลังขยายเป็นพื้นที่กว้างด้วย
เช่นกันที่บริเวณบ้านท่าเรือ ม.5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เส้นทางเชื่อมยะลากับจ.นราธิวาส น้ำท่วมถนน สายรือเสาะ-ศรีสาคร รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ทหารต้องนำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือนำชาวบ้านและรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทาง นอกจากนั้นยังมีฝ่ายปกครองและเทศบาลตำบลรือเสาะนำข้าวกล่องนำไปแจกให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย