สาวเชียงใหม่ติดโควิด ยันสวมแมสก์ขณะขายอาหารตลอดเวลา

เชียงใหม่ 5 ม.ค.- สาวป่วยโควิด-19 รายล่าสุดของเชียงใหม่ แจงข้อสงสัยผ่านเฟซบุ๊ก ยืนยันเป็นแม่ค้าจริง ไม่ได้ทำพริตตี้ แต่ชอบเที่ยว และขณะขายอาหารตามตลาดนัดใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา


เฟซบุ๊กส่วนตัวของหญิงสาวชาวเชียงใหม่วัย 25 ปี รายหนึ่ง โพสต์ข้อความยอมรับว่า เป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายล่าสุดของจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ขอโทษเจ้าของกิจการต่างๆ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไทม์ไลน์ของตนเอง ยืนยันก่อนหน้านี้ไม่มีอาการบ่งบอกว่าป่วย จึงใช้ชีวิตตามปกติ พร้อมแจงข้อสงสัยที่ถูกตั้งคำถาม ยืนยันเป็นแม่ค้าขายอาหารตามตลาดนัดจริง ไม่ได้เป็นพริตตี้ แต่ชอบเที่ยว และระหว่างการขายอาหารตามตลาดนัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จนวันที่ 3 มกราคม จึงมีอาการป่วย ซึ่งหมอตั้งข้อสังเกตอาจได้รับเชื้อจากเงินหรือสัมผัสจุดที่มีเชื้อ ยืนยันให้ข้อมูโควิด-19 ที่เป็นจริงต่อเจ้าหน้าที่อย่างละเอียดแล้ว พร้อมลงท้าย หนูเป็นโควิด-19 ไม่ใช่โจรยิงกราด

สำหรับผู้ป่วยโควิดคนนี้ เป็นผู้ป่วยสะสมรายที่ 50 ของเชียงใหม่ เป็นหญิงไทย อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อาชีพขายอาหารปรุงสุกตลาดนัด โดยวันจันทร์-อังคาร จะขายตลาดนัดมีโชค ส่วนพุธ-ศุกร์ จะขายที่ตลาดนัดโลตัสคำเที่ยง ยังไม่มีการระบุว่าได้รับเชื้อมาจากที่ใด มีเพียงสถานที่ที่เดินทางไปช่วง 7 วันที่ผ่านมา ไป เที่ยวตามสถานบันเทิง 5 แห่ง ตลาดนัด 2 แห่ง รวมทั้งไปจังหวัดลำปาง และแพร่ ก่อนเดินทางกลับเชียงใหม่ และเริ่มมีอาการ 3 มกราคม มีไข้ อุณหภูมิ 28.4 องศาเซลเซียส ไป เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดตามเนื้อตัว


ไทม์ไลน์ของหญิงสาวคนนี้ คือ

26 ธ.ค. 07.00–00.00 น. งานแต่งงาน ที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 00.00–02.00 น. ร้านดีซี
27 ธ.ค. อยู่บ้านเชียงใหม่
28 ธ.ค. 22.00 – 22.30 น. ท่าช้าง 22.30 – 00.30 น. ร้านอิฟินิตี้
29 ธ.ค. 10.30 – 13.00 น. ต่อใบขับขี่ที่สถานีขนส่งลำปาง 13.00 – 15.00 น. แวะบ้านญาติ อ.เมือง จ.ลำปาง 21.00 – 21.30 น. ร้าน Mr. DIY โลตัสคำเที่ยง
30 ธ.ค. 16.00 – 22.00 น. ตลาดนัดโลตัสคำเที่ยง
31 ธ.ค. 20.00 – 20.30 น. ตลาดนัดโลตัสคำเที่ยง 20.30 – 01.00 น. ร้านวอร์มอัพ
1 ม.ค. 17.00 – 19.00 น. เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ 22.30 – 02.00 น. ร้านวอร์มอัพ 02.00 – 03.00 น. Pretty Exclusive club
2 ม.ค. 16.30 น. ขับรถไป จ.แพร่ กับมารดา 17.30 น. แวะรับเพื่อน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 19.30 น. ถึงบ้านเพื่อน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ซึ่งจัดงานวันเกิดหลาน
3 ม.ค. 13.00 น. ออกจากบ้านเพื่อน จ.แพร่ 16.00 น. แวะปั๊ม ปตท.ห้างฉัตร เข้าร้านสะดวกซื้อ 19.15 – 20.00 น. ร้านอิ่มหมี พลีมัน สตาร์เอฟนิว 21.00 น. ตรวจ รพ.เอกชน

  1. ม.ค. รู้ผลตรวจติดโควิด เข้ารับการรักษา

ขณะที่เทศบาลนครเชียงใหม่เร่งฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามสถานบันเทิงทั้ง 5 แห่งที่ผู้ป่วยสาวคนนี้ไปใช้บริการ รวมทั้งร้านวอร์มอัพ ผับชื่อดังของเชียงใหม่ที่ไปร่วมเคาท์ดาวน์ ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งปิดร้านทั้ง 5 แห่ง 3 วัน แต่ผู้บริหารร้านวอร์มอัพยืนยัน จะปิดให้บริการ 14 วัน รวมทั้งให้พนักงานในร้าน 150 คน เฝ้าสังเกตอาการบางส่วนที่ใกล้ชิดผู้ป่วยให้กักตัว 14 วัน ขณะที่วันนี้มีชาวเชียงใหม่จำนวนมากไปขอรับการตรวจจนแน่นโรงพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงในสถานบันเทิงไทม์ไลน์ ของผู้ป่วยโควิดคนล่าสุด


อีกด้านหนึ่งที่ได้รับผลกระทบพ่อค้าแม่ค้าภายในงานฤดูหนาว และโอทอปของดีเมืองเชียงใหม่ ทยอยเก็บข้าวของกลับบ้าน หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมติสั่งห้ามประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวงานฤดูหนาวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ม.ค.) โดยให้คงเหลือจัดการประกวดนางสาวเชียงใหม่ในรอบตัดสิน และการออกรางวัลสลากกาชาด ซึ่งทั้งสองกิจกรรมจะมีการบันทึกภาพวิดีโอเพื่อเผยแพร่ภายหลังคำสั่งดังกล่าวทำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างผิดหวังและเครียดกับผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะการสั่งห้ามคนเที่ยวงานก็คือการยกเลิกงานไปโดยปริยาย หลายคนลงทุนไปมาก แต่กลับต้องขาดทุนเพราะไม่ได้ขายต่อ ขณะที่บางรายเครียดหนัก เพราะลงทุนไปหมดจนไม่มีเงินเติมน้ำมันพาลูกน้องกลับบ้าน

นางสมพร วงศ์คำลือ บอกว่า เดือดร้อนมาก ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ปีนี้ลงทุนซื้อวัตถุดิบทำอาหารมาตุนไว้หลายหมื่นบาท แต่ขายไม่ดีเพราะมีคนมาเที่ยวงานน้อย ล่าสุดยังมีคำสั่งห้ามคนเที่ยวยกเลิกงานฤดูหนาว ทำให้ต้องหมดตัว วัตถุดิบที่ซื้อมาก็เป็นของสด อีกไม่นานก็เน่าเสีย ตอนนี้แทบไม่เหลือเงินกลับบ้านต่างจังหวัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]