fbpx

ตร.ยิงถล่มรถผิดคัน นึกว่าเป็นคนร้ายหนีมาจากกระบี่

ตรัง 5 ม.ค. – ตำรวจตั้งจุดสกัดจับคนร้ายซิ่งเก๋งหนีจาก จ.กระบี่ เข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง เห็นรถต้องสงสัยจึงยิงถล่มใส่ ปรากฏว่าไม่ใช่รถคนร้าย มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ส่วนคนร้ายตัวจริงยังลอยนวล ญาติลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด


นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ หลังปฏิบัติการยิงสกัดรถที่คาดว่าเป็นของคนร้าย บริเวณสี่แยกอันดามัน ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยรถมีร่องรอยคมกระสุนเจาะเข้าหลายจุด ยางล้อหลังแตกทั้ง 2 เส้น

การสกัดจับในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นสามีภรรยาทะเลาะวิวาท โดยกักขังภรรยาไว้ในบ้าน ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยคนร้ายซึ่งเป็นสามีใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ถูกยิงบาดเจ็บเช่นกัน รวมบาดเจ็บ 2 ราย ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.กระบี่ และเข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง ด้วยรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน หมวด จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยอาวุธปืนสั้นและปืนยาวมาในรถด้วย


ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้รับการประสานจาก สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ จึงได้ตั้งจุดสกัดบริเวณสี่แยกอันดามัน ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. วานนี้ (4 ม.ค.) ระหว่างที่ตั้งจุดตรวจสกัด พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถเก๋งสีขาว ทะเบียน กธ 7693 กระบี่ ขับผ่านมา ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นรถต้องสงสัยคันเดียวกับที่ก่อเหตุ และมีอาวุธปืนอยู่ในรถด้วย ตำรวจจึงใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ทันที พบในรถโดยสารกันมา 3 ราย โดยมีนายสุทธิราช หมาดแดหว่า อายุ 38 ปี อาชีพขับรถส่งของ เป็นคนขับ และคนนั่งข้าง คือ น.ส.หนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ อายุ 29 ปี อาชีพเสมียนแพปลาแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ เป็นภรรยา ได้รับบาดเจ็บถูกเจ้าหน้าที่ยิงทะลุรถบริเวณประตู กระสุนเจาะเข้าต้นขาซ้าย ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนนั่งหลัง คือ น.ส.สุดารัตน์ หมาดแดหว่า อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนายสุทธิราช ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำร่างผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.หนึ่งฤทัย ส่งโรงพยาบาลห้วยยอด จ.ตรัง และควบคุมตัวนายสุทธิราช และ น.ส.สุดารัตน์ ไว้

เมื่อตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนนายสุทธิราช และ น.ส.สุดารัตน์ อยู่ในอาการตื่นตกใจอย่างมาก พร้อมยืนยันตลอดเวลาว่าไม่ได้ก่อเหตุหรือทำผิดกฎหมายมาแต่อย่างใด ตำรวจจึงนำตัวทั้งคู่มาสอบสวนที่ สภ.ห้วยยอด โดยเบื้องต้นมีการยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผิดตัว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุที่แท้จริงว่าหลบหนีไปในเส้นทางใด

สอบปากคำนายสุทธิราช ให้การว่า ตนเองขับรถออกจากบ้านในพื้นที่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ มายังสถานีรถไฟตรัง เพื่อจะเดินทางไปอบรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันนี้ (5 ม.ค) โดยนำภรรยามาพร้อมกับน้องสาวของตนเอง เพื่อจะได้ขับรถกลับ ขณะเกิดเหตุ ตนเองเห็นตำรวจยืนอยู่บริเวณสี่แยก ในใจคิดว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุ จึงได้ทำการเปลี่ยนเลนและชะลอรถ แต่ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระหน่ำยิงเข้าอย่างจัง จนตนเองต้องหยุดรถ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาควบคุมตัว โดยที่ตนเองไม่ได้พูดอะไรแม้แต่น้อย และยืนยันว่าไม่ใช่คนร้าย


ด้านนายห้าสัน หมาดแดหว่า พ่อของนายสุทธิราช กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนที่ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ของมึนเมา แม้กระทั่งบุหรี่ก็ยังไม่สูบ จึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้จะเดินหน้าเอาเรื่อง เพื่อไม่ให้เรื่องเงียบ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว และอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ น.ส.หนึ่งฤทัย ภรรยาของนายสุทธิราช อาการปลอดภัยแล้ว และอยู่ระหว่างการไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอให้เชื่อมั่น นำ ปท.แก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย  

“เศรษฐา” ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เข้าใจธุรกิจ พร้อมนำประเทศแก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง น้อยใจ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย  

“บิ๊กต่อ” ส่งทนายยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” แฉโยงเส้นเงินพนัน

“บิ๊กต่อ” ส่ง “อัจฉริยะ” เดินหน้าชน “ทนายตั้ม” ยกแรกยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท หลังถูกกล่าวหาว่ามีเส้นเงินจากเว็บพนันโยงคนใกล้ชิด ผบ.ตร.

ทองคำนิวไฮ พุ่งกระฉูด 550 บาท ทองรูปพรรณแตะ 39,000 บาท

ทองคำเปิดตลาดปรับขึ้นรวดเดียว 550 บาท ทองแท่งขายออก 38,500 บาท ทองรูปพรรณขายออก 39,000 บาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้ว (29 มี.ค.)

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้วช่วงสายวันนี้ (29 มี.ค.) ทำให้รถจากสถานีลาดพร้าว เดินทางไปถึงสถานีหัวหมาก ต้องสิ้นสุดที่สถานีศรีกรีฑา