นครพนม 31 ธ.ค.-ฮือฮา! พระราชทานเพลิงร่าง “หลวงปู่สิงห์” เกจิดังลุ่มน้ำสงคราม พบหัวใจไม่ไหม้ไฟ ขณะที่ญาติโยมถ่ายภาพกลางเมรุคล้ายหลวงปู่ยืนลาลูกศิษย์
เมื่อวานนี้ (30 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากศิษยานุศิษย์วัดวิชัย บ้านหนองบาท้าว อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนมว่าหลังจากพุทธศาสนิกชนและคณะสงฆ์ได้ร่วมกันประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่สิงห์ พรหมโชโต หรือ พระครูสุทธิพรหมโชติ อดีตรองเจ้าคณะตำบลศรีสงคราม อดีตเจ้าอาวาสวัดวิชัย พระเกจิแห่งลุ่มน้ำสงคราม เมื่อกลางดึกวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ารุ่งเช้าสรีระสังขารทุกส่วนไหม้หมด ยกเว้นหัวใจไม่ไหม้ไฟ สร้างความฮือฮา และความประหลาดใจแก่คณะลูกศิษย์ยิ่งนัก อีกทั้งยังพบว่า มีญาติโยมคนหนึ่งถ่ายภาพขณะเผาร่างหลวงปู่ พบภาพคล้ายหลวงปู่ยืนโบกมือลาลูกศิษย์
พระครูปลัดวันเฉลิม สาสโนภาโส อายุ 27 ปี ลูกศิษย์ กล่าวว่า หลังหลวงปู่สิงห์ละสังขาร เมื่อเวลา 15.35 น. ของวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 คณะศิษย์ได้ประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล 50 วันและ 100 วัน จนถึงวันพระราชทานเพลิงศพ เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 29 ธันวาคม โดยมีพระวิสุทธิญาณเมธี(มหาไพบูลย์ กตปุญโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ซึ่งมีพิธีเผาหลอกเวลา 15.00 น. และมีพิธีเผาจริงเวลา 20.00 น. ซึ่งมีคณะสงฆ์จากหลายอำเภอกว่า 70 รูป พร้อมพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีกว่า 1,000 คน
หลังการเผาร่าง “หลวงปู่สิงห์” ผ่านไประยะหนึ่ง ลูกศิษย์พบเห็นสิ่งผิดปกติบนเมรุชั่วคราว จึงใช้ฟืนจำนวนหนึ่งและถ่าน 4 กระสอบ สุมไฟให้ลุกโชนจนถึงเวลา 24.00 น. พบว่าสังขาร “หลวงปู่สิงห์” ไม่ไหม้ไฟ จึงเพิ่มถ่านอีก 4 กระสอบและเชื้อฟืนจำนวนหนึ่ง รวมถึงยางรถยนต์ 2 เส้นสุมอีกรอบ กระทั่งเวลา 04.00 น. มีโยมคนหนึ่งได้วิ่งหน้าตื่นมาพบอาตมา บอกว่ายังเหลือชิ้นส่วนหนึ่งของหลวงปู่ คือ หัวใจบนตะแกรงไม่ไหม้ไฟ มีขนาดใหญ่เท่า 2 กำปั้นมือ จึงเป็นที่ประหลาดใจ ทั้งที่สุมถ่านและเชื้อฟืน 2-3 รอบ จนเวลา 05.00 น. จึงประกอบพิธีเก็บอัฐิ และได้มีแพทย์จาก รพ.ศรีสงคราม เดินทางมาพิสูจน์ยืนยันแล้วว่า เป็นชิ้นส่วนของหัวใจไม่ไหม้ไฟ
พระครูปลัดวันเฉลิม เล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนที่ “หลวงปู่สิงห์” จะละสังขารในวัย 97 ปี 70 พรรษา ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ญาคูสุ หรือ พระครูพิทักษ์อุดมพร อดีตเจ้าอาวาสเจ้าคณะตำบลนาเดื่อ ซึ่งหลวงปู่ญาคูสุเป็นศิษย์สืบสายธรรมพระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระเกจิผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน ศิษย์ของสำเร็จลุน บรมครูผู้วิเศษแห่งนครจำปาศักดิ์ ฝั่ง สปป ลาว
ย้อนหลังไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ญาคูสุ ญาติโยมและชาวบ้านต่างตกตะลึง เพราะพบหัวใจหลวงปู่ญาคูสุก็ไม่ไหม้ไฟเช่นกัน มีเรื่องเล่าลือว่าที่กระหม่อมหลวงปู่สิงห์และหลวงปู่ญาคูสุสักยันต์อิติปิโส 8 ทิศที่กะโหลก
สำหรับอัฐิ “หลวงปู่สิงห์”ได้ถูกนำไปลอยอังคารที่บริเวณกลางแม่น้ำโขง บริเวณลอยพระพุทธบาทเวินปลา วัดพระบาทเวินปลา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ส่วนชิ้นส่วนหัวใจที่ไม่ไหม้ไฟ ได้ถูกบรรจุในโถแก้วปิดทองคำ และเก็บไว้ที่กุฏิหลวงปู่ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมากราบไหว้บูชา.-สำนักข่าวไทย