สมุทรสาคร 28 ธ.ค. – แพทย์แถลงอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร หลังตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดยังคงเป็นปกติทุกอย่าง หน้าตาสดชื่นขึ้น ความอ่อนล้าอ่อนเพลียลดลง ขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมุทรสาคร
นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร เปิดเผยอาการของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเย็นวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่านผู้ว่าฯ ได้มาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เนื่องจากต้องการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ก่อนที่จะมีการเปิดศูนย์ห่วงใยคนสาคร ภายในสนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร อย่างเป็นทางการว่า ถ้ามีการพบเชื้อโควิด-19 ในตัวท่านนั้น ไม่ได้มาจากผู้ที่พักรักษาอยู่ภายในศูนย์ฯ ซึ่งขณะมาตรวจร่างกาย สภาพร่างกายของท่านยังแข็งแรง ปกติดีทุกอย่าง แต่มีอาการอ่อนเพลีย อ่อนล้าจากการทำงานหนัก และไม่ค่อยได้พักผ่อน
ทั้งนี้ เมื่อตรวจแล้วพบเชื้อจริง มีผลยืนยันจากแล็บ 2 แห่ง แพทย์จึงได้รับตัวท่านผู้ว่าฯ ไว้ดูแลรักษา โดยอาการล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ (28 ธ.ค.) ยังคงเป็นปกติทุกอย่าง ยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาสดชื่นขึ้น ความอ่อนล้าอ่อนเพลียลดลง ด้านอาการข้างเคียงอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการตรวจอย่างละเอียด ส่วนจะมีการย้ายไปที่โรงพยาบาลอื่นหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความประสงค์ของท่านผู้ว่าฯ แต่ตอนนี้ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร
ท่านผู้ว่าฯ ยังฝากความห่วงใยมาถึงข้าราชการและพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาคร ในเรื่องของการจัดตั้งศูนย์ห่วงใยคนสาคร โดยขอให้ทุกคนช่วยกันจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ให้เป็นผลสำเร็จ เพราะจะเป็นสถานที่เพื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 และลดอัตราเสี่ยงการติดเชื้อภายนอกได้สูงขึ้น
นพ.อนุกูล ยังเปิดเผยเกี่ยวกับอาการของผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ว่า จากผลตรวจในครั้งแรกไม่พบเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องทำการกักตัวไว้ เพื่อรอผลตรวจซ้ำภายใน 14 วัน ขณะที่กลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ สมุทรสาคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร
โดยวันนี้ ข้าราชการและผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงเข้าตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลสมุทรสาครกันอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในนี้ก็คือ กลุ่มผู้สื่อข่าวของ จ.สมุทรสาคร ที่ทำงานภาคสนามเกาะติดข่าวโควิดมาโดยตลอด โดยได้รับการอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร ที่ดำเนินการให้เข้าตรวจด้วยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย รถพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คาดว่าจะทราบผลภายในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้. – สำนักข่าวไทย