ผลพวงโควิด ทำเกาะสมุยคริสต์มาสเงียบเหงา

ภูมิภาค 26 ธ.ค.-บรรยากาศคืนวันคริสต์มาส บนถนนเลียบชายหาดเฉวง ถนนย่านเศรษฐกิจของเกาะสมุย เงียบเหงาอย่างมาก ส่วนถนนคนเดินเมืองประจวบฯ แม่ค้าบ่นยอดขายเหลือ 20% ด้านวัดปอพราน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เลื่อนงานฝังลูกนิมิต แม้เตรียมงานมากว่า 1 ปี

ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบรรยากาศวันคริสต์มาสของเกาะสมุย โดยสำรวจบริเวณถนนเลียบชายหาดเฉวง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นถนนย่านเศรษฐกิจของเกาะสมุย ทุกปีช่วงวันคริสต์มาสบริเวณถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวคนไทย ส่งผลให้ร้านค้าร้านอาหารที่เปิดให้บริการเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ทำให้ในค่ำคืนวันคริสต์มาสของเกาะสมุยคุกคักสร้างรายได้ช่วงวันคริสต์มาสไม่ต่ำหนึ่งพันล้านบาท


จากการสำรวจบรรยากาศคืนวันคริสต์มาสช่วงโควิด-19 ระบาด บรรยากาศเงียบเหงาอย่างมาก ร้านค้าปิด ไฟที่เคยส่องแสงสว่างเพื่อสร้างสีสันให้กับถนนสายเลียบชายหาดเฉวง ทำให้บรรยากาศของเกาะสมุยในวันคริสต์มาสปีนี้ดูหดหู่ แต่ก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาเที่ยวภายในบาร์ชื่อดังของเกาะ

สำหรับบนถนนสายเลียบชายหาดแห่งนี้ได้มีกลุ่มผู้ขับรถแท็กซีที่มาจอดรอรับลูกค้า ได้จับกลุ่มเพื่อรอรับผู้โดยสารอย่างมีความหวัง จากการสอบถามนายอภิวัช กุลฉวะ ผู้ขับรถแท็กซี่กล่าวว่า บรรยากาศวันคริสต์มาสปีนี้กับปีที่แล้วต่างกันอย่างมาก จากถนนที่เคยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก กลับไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลทำให้รถแท็กซี่จากที่เคยมีประมาณห้าร้อยคัน กับเหลือไม่ถึงหนึ่งร้อยคันในขณะนี้ เนื่องจากถูกบริษัทไฟแนนซ์มายึดรถไปเพราะขาดส่งค่างวด และยังถูกค่าทวงถามจากบริษัทไฟแนนซ์ครั้งละสี่ร้อยบาท จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานขอให้บริษัทไฟแนนซ์ดำเนินการหยุดพักชำระค่างวดของผู้ประกอบการรถแท็กซี่ โดยขอให้พักชำระหนี้ในปีหน้าอีกหกเดือน เพื่อทำให้เจ้าของรถแท็กซี่ประคองตัวเองให้ผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไปได้


ส่วนถนนคนเดินเลียบชายทะเลอ่าวประจวบฯ เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจ ซึ่งมีแผงขายอาหารกว่า 300 ร้านค้า และร้านเสื้อผ้าเครื่องใช้อีกกว่า 200 ร้านค้า มีผู้คนเดินน้อยลง จากที่วันสุดสัปดาห์จะคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนและนักท่องเที่ยว แห่กันจับจ่ายใช้สอยซื้ออาหารรับประทาน กลับเงียบสงัด บางช่วงไม่มีคนเดิน และไม่คึกคึกเหมือนเมื่อก่อน โดยเฉพาะการซื้ออาหารมารับประทาน หรือเดินเล่นบนสะพานสราญวิถี ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายรายรีบเดินซื้อและรีบกลับ ซึ่งแผงขายอาหารหลายร้าน สินค้าที่วางแสดงหน้าร้านแทบขายไม่ออก ตั้งไว้ตั้งแต่เย็นอย่างไรก็อยู่เช่นนั้น ทำให้แม่ค้าถอดใจรีบเก็บแผงก่อนเวลา

นางธิติวรรณ ไพบูลย์อัตกิจ แม่ค้าแผงสถานีเครปนานา บอกว่า เรียกว่ายอดตกไม่ได้ ต้องเรียกว่าหล่นตุ๊บ สาเหตุจากเชื้อโควิดระบาด ชาวบ้านกังวลมาก วันแรกที่ทราบข่าว ถนนโล่งมาก พวกเราต้องนั่งเล่นโทรศัพท์ได้เป็นชั่วโมงๆ ข้อมูลในไลน์ หรือเฟซบุ๊กที่ส่งกันมาเรื่องการแพร่ระบาดโควิดในประจวบคีรีขันธ์ เชื่อถือได้ เพราะทางราชการเองไม่ออกมาชี้แจงสร้างความเข้าใจเหมือนจังหวัดอื่นที่มีการแถลงข่าวทุกวัน ส่วนสาเหตุที่ทางราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่เปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะกลัวถูกตำหนิ หรือทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และการไม่เปิดเผยข้อมูลส่งผลให้เกิดความสับสนในข้อเท็จจริง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ซึ่งลูกค้าของตนเองมีที่เป็นเจ้าของโรงแรม สถานประกอบการ เล่าให้ฟังว่า ลูกค้าโรงแรมคืนยอดจองจำนวนมาก เนื่องจากเข้าใจว่ามีเชื้อโควิดระบาดในเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่สำคัญสำหรับแม่ค้าอย่างพวกเราในถนนคนเดิน คือยอดขายตกลงจนน่าใจหาย จากที่เคยขายได้ปกติ ตอนนี้ขายได้เพียงร้อยละ 20 หากเป็นเช่นนี้คงได้แต่คอยนั่งตบยุง ยอมไม่ขายดีกว่า ดีกว่าเจ็บตัว อยู่บ้านดีกว่า

ทั้งนี้ผู้ประกอบการถนนคนเดิน มีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าตลาด และบังคับให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูก รวมถึงแอลกอฮอล์ล้างมือฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค


ที่วัดปอพราน หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พระสงฆ์และชาวบ้านจำนวนมาก ยังช่วยกันจัดตกแต่งและประดับประดาสถานที่ภายในวัด เดิมทีจะต้องใช้จัดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 63 ถึงวันที่ 10 มกราคม 64 แต่ปรากฏว่างานวัดงานใหญ่นี้ต้องเลื่อนการจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังโดนผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเรื่องเศร้าและน่าเสียดายอย่างมาก เพราะทุกคนต่างเฝ้ารอพระอุโบสถที่ใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน 12 ปี กว่าจะแล้วเสร็จ และใช้เวลาจัดเตรียมงานกันมาแรมปี กว่าจะประดับประดาตกแต่งสถานที่ในวัดให้มีความสวยงามพร้อม 100% แล้ว

พระครูสิทธิวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปอพราน กล่าวว่า วัดต้องเลื่อนการจัดงานออกไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้งดทุกกิจกรรมที่เป็นการรวมคนหมู่มาก ก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะหากฝืนจะเป็นการผิดกฎหมาย ผิดจริยธรรม ต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้คน แม้ว่าได้เตรียมงานกันมาเป็นปีๆ หมดเงินไปหลายล้านบาทก็ตาม อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น ทางวัดจะกลับมาจัดงานได้อีกครั้งในเร็ววันนี้ ส่วนที่มีการจัดเตรียมแล้ว ก็คงต้องช่วยกันดูแลให้อยู่ในสภาพที่สวยงามอย่างนี้ต่อไป แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องรื้อออกทั้งหมด

ด้านนายวิเชียร รวมผักแว่น ผู้ใหญ่บ้านปอพราน บอกว่า ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านช่วยกันเตรียมงานมา 1 ปี 4 เดือน ต่างเสียดายที่ต้องมาเลื่อนงานกะทันหัน ที่ผ่านมาทางวัดใช้เงินลงทุนจัดเตรียมตกแต่งสถานที่ รวมถึงการต่อเติมส่วนต่างๆไปกว่า 5 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]