ผลพวงโควิด ทำเกาะสมุยคริสต์มาสเงียบเหงา

ภูมิภาค 26 ธ.ค.-บรรยากาศคืนวันคริสต์มาส บนถนนเลียบชายหาดเฉวง ถนนย่านเศรษฐกิจของเกาะสมุย เงียบเหงาอย่างมาก ส่วนถนนคนเดินเมืองประจวบฯ แม่ค้าบ่นยอดขายเหลือ 20% ด้านวัดปอพราน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เลื่อนงานฝังลูกนิมิต แม้เตรียมงานมากว่า 1 ปี

ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบรรยากาศวันคริสต์มาสของเกาะสมุย โดยสำรวจบริเวณถนนเลียบชายหาดเฉวง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นถนนย่านเศรษฐกิจของเกาะสมุย ทุกปีช่วงวันคริสต์มาสบริเวณถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวคนไทย ส่งผลให้ร้านค้าร้านอาหารที่เปิดให้บริการเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ทำให้ในค่ำคืนวันคริสต์มาสของเกาะสมุยคุกคักสร้างรายได้ช่วงวันคริสต์มาสไม่ต่ำหนึ่งพันล้านบาท


จากการสำรวจบรรยากาศคืนวันคริสต์มาสช่วงโควิด-19 ระบาด บรรยากาศเงียบเหงาอย่างมาก ร้านค้าปิด ไฟที่เคยส่องแสงสว่างเพื่อสร้างสีสันให้กับถนนสายเลียบชายหาดเฉวง ทำให้บรรยากาศของเกาะสมุยในวันคริสต์มาสปีนี้ดูหดหู่ แต่ก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาเที่ยวภายในบาร์ชื่อดังของเกาะ

สำหรับบนถนนสายเลียบชายหาดแห่งนี้ได้มีกลุ่มผู้ขับรถแท็กซีที่มาจอดรอรับลูกค้า ได้จับกลุ่มเพื่อรอรับผู้โดยสารอย่างมีความหวัง จากการสอบถามนายอภิวัช กุลฉวะ ผู้ขับรถแท็กซี่กล่าวว่า บรรยากาศวันคริสต์มาสปีนี้กับปีที่แล้วต่างกันอย่างมาก จากถนนที่เคยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก กลับไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลทำให้รถแท็กซี่จากที่เคยมีประมาณห้าร้อยคัน กับเหลือไม่ถึงหนึ่งร้อยคันในขณะนี้ เนื่องจากถูกบริษัทไฟแนนซ์มายึดรถไปเพราะขาดส่งค่างวด และยังถูกค่าทวงถามจากบริษัทไฟแนนซ์ครั้งละสี่ร้อยบาท จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานขอให้บริษัทไฟแนนซ์ดำเนินการหยุดพักชำระค่างวดของผู้ประกอบการรถแท็กซี่ โดยขอให้พักชำระหนี้ในปีหน้าอีกหกเดือน เพื่อทำให้เจ้าของรถแท็กซี่ประคองตัวเองให้ผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไปได้


ส่วนถนนคนเดินเลียบชายทะเลอ่าวประจวบฯ เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจ ซึ่งมีแผงขายอาหารกว่า 300 ร้านค้า และร้านเสื้อผ้าเครื่องใช้อีกกว่า 200 ร้านค้า มีผู้คนเดินน้อยลง จากที่วันสุดสัปดาห์จะคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนและนักท่องเที่ยว แห่กันจับจ่ายใช้สอยซื้ออาหารรับประทาน กลับเงียบสงัด บางช่วงไม่มีคนเดิน และไม่คึกคึกเหมือนเมื่อก่อน โดยเฉพาะการซื้ออาหารมารับประทาน หรือเดินเล่นบนสะพานสราญวิถี ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายรายรีบเดินซื้อและรีบกลับ ซึ่งแผงขายอาหารหลายร้าน สินค้าที่วางแสดงหน้าร้านแทบขายไม่ออก ตั้งไว้ตั้งแต่เย็นอย่างไรก็อยู่เช่นนั้น ทำให้แม่ค้าถอดใจรีบเก็บแผงก่อนเวลา

นางธิติวรรณ ไพบูลย์อัตกิจ แม่ค้าแผงสถานีเครปนานา บอกว่า เรียกว่ายอดตกไม่ได้ ต้องเรียกว่าหล่นตุ๊บ สาเหตุจากเชื้อโควิดระบาด ชาวบ้านกังวลมาก วันแรกที่ทราบข่าว ถนนโล่งมาก พวกเราต้องนั่งเล่นโทรศัพท์ได้เป็นชั่วโมงๆ ข้อมูลในไลน์ หรือเฟซบุ๊กที่ส่งกันมาเรื่องการแพร่ระบาดโควิดในประจวบคีรีขันธ์ เชื่อถือได้ เพราะทางราชการเองไม่ออกมาชี้แจงสร้างความเข้าใจเหมือนจังหวัดอื่นที่มีการแถลงข่าวทุกวัน ส่วนสาเหตุที่ทางราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่เปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะกลัวถูกตำหนิ หรือทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และการไม่เปิดเผยข้อมูลส่งผลให้เกิดความสับสนในข้อเท็จจริง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ซึ่งลูกค้าของตนเองมีที่เป็นเจ้าของโรงแรม สถานประกอบการ เล่าให้ฟังว่า ลูกค้าโรงแรมคืนยอดจองจำนวนมาก เนื่องจากเข้าใจว่ามีเชื้อโควิดระบาดในเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่สำคัญสำหรับแม่ค้าอย่างพวกเราในถนนคนเดิน คือยอดขายตกลงจนน่าใจหาย จากที่เคยขายได้ปกติ ตอนนี้ขายได้เพียงร้อยละ 20 หากเป็นเช่นนี้คงได้แต่คอยนั่งตบยุง ยอมไม่ขายดีกว่า ดีกว่าเจ็บตัว อยู่บ้านดีกว่า

ทั้งนี้ผู้ประกอบการถนนคนเดิน มีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าตลาด และบังคับให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูก รวมถึงแอลกอฮอล์ล้างมือฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค


ที่วัดปอพราน หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พระสงฆ์และชาวบ้านจำนวนมาก ยังช่วยกันจัดตกแต่งและประดับประดาสถานที่ภายในวัด เดิมทีจะต้องใช้จัดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 63 ถึงวันที่ 10 มกราคม 64 แต่ปรากฏว่างานวัดงานใหญ่นี้ต้องเลื่อนการจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังโดนผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเรื่องเศร้าและน่าเสียดายอย่างมาก เพราะทุกคนต่างเฝ้ารอพระอุโบสถที่ใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน 12 ปี กว่าจะแล้วเสร็จ และใช้เวลาจัดเตรียมงานกันมาแรมปี กว่าจะประดับประดาตกแต่งสถานที่ในวัดให้มีความสวยงามพร้อม 100% แล้ว

พระครูสิทธิวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปอพราน กล่าวว่า วัดต้องเลื่อนการจัดงานออกไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้งดทุกกิจกรรมที่เป็นการรวมคนหมู่มาก ก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะหากฝืนจะเป็นการผิดกฎหมาย ผิดจริยธรรม ต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้คน แม้ว่าได้เตรียมงานกันมาเป็นปีๆ หมดเงินไปหลายล้านบาทก็ตาม อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น ทางวัดจะกลับมาจัดงานได้อีกครั้งในเร็ววันนี้ ส่วนที่มีการจัดเตรียมแล้ว ก็คงต้องช่วยกันดูแลให้อยู่ในสภาพที่สวยงามอย่างนี้ต่อไป แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องรื้อออกทั้งหมด

ด้านนายวิเชียร รวมผักแว่น ผู้ใหญ่บ้านปอพราน บอกว่า ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านช่วยกันเตรียมงานมา 1 ปี 4 เดือน ต่างเสียดายที่ต้องมาเลื่อนงานกะทันหัน ที่ผ่านมาทางวัดใช้เงินลงทุนจัดเตรียมตกแต่งสถานที่ รวมถึงการต่อเติมส่วนต่างๆไปกว่า 5 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

เหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 5 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ อีสานตอนบน และภาคตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ดานัส”แล้ว คาดว่า […]

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]