ชลบุรี 24 ธ.ค.-คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 30 บาท จากร้านทองในห้างดัง เมืองชลบุรี แต่ดันทำมือถือหล่น ตำรวจสืบหาข้อมูลง่าย รู้ที่อยู่ หน้าตา เชื่อใกล้ตามจับได้แล้ว
วงจรปิดร้านตำหนักทอง 5 สาขาโลตัส พลัสมอล อมตะนคร จ.ชลบุรี บันทึกภาพขณะคนร้ายเป็นชายหนุ่ม อายุประมาณ 40 ปี ทำทีมาซื้อทองรูปพรรณ โดยดูสร้อยข้อมือหนัก 5 บาท 2 เส้น หลังจากนั้นขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท และทำทีคล้องคอ 2 เส้น รวมทั้งหมด 30 บาท หลังจากนั้นชักปืนสั้นออกจากกระเป๋าสะพายมาข่มขู่ ทำให้ประชาชนที่อยู่บริเวณร้านทองต่างหลบหนี เพราะเกรงจะได้รับอันตรายหากคนร้ายยิงปืนออกมา หลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนีวิ่งออกไปจากห้างสรรพสินค้าดังกล่าว
พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เปิดเผยว่าจากหลักฐานที่ได้ คือ ขณะที่คนร้ายก่อเหตุแล้ววิ่งหลบหนีได้ทำโทรศัพท์มือถือหล่น พลเมืองดีจึงเอามาให้ตำรวจและตรวจสอบพบว่ารูปภาพในโทรศัพท์ตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงนำไปตรวจสอบเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ แล้วเอาภาพใบหน้าเจ้าของโทรศัพท์ ไปให้พนักงานขายทองในร้านตำหนักทอง 5 ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นคนก่อเหตุ
จากนั้น ตำรวจพร้อมชุดสืบสวนจึงติดตามจนทราบว่า คนร้ายทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งที่อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 65 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเพิ่งเดินทางเข้ามาทำทีมาดูทองที่ร้านแห่งนี้ บอกว่าโบนัสออกจะมาซื้อทอง โดยอ้างว่าที่มาร้านทองนี้เพราะอดีตภรรยาคนแรกที่เลิกไป ทำงานอยู่ที่โรงงานในนิคมอมตะนคร และขณะนี้มีภรรยาใหม่อายุ 31 ปี ซึ่งมีลูกคนแรกด้วยกันอายุยังไม่ถึง 1 ปี ตำรวจติดตามไปที่บ้านที่อำเภอเกาะจันทร์ ปรากฏว่าคนร้ายไม่เข้าบ้านน่าจะรู้ตัวแล้ว เพราะทำมือถือหล่น แต่ตำรวจกดดันไปยังบ้านเพื่อน บ้านญาติพี่น้อง กดดันให้เข้ามามอบตัวจากโทษหนักก็จะกลายเป็นเบา ในเบื้องต้นทางตำรวจได้นำกำลังตำรวจไปตรวจสอบตามท่ารถโดยสารต่าง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้โดยสารหลบหนีออกยังต่างจังหวัด และคาดว่าจะจับได้เร็วๆนี้
นอกจากนี้ได้สอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุเห็นคนร้ายก่อเหตุแล้ววิ่งไปทางบันไดเลื่อนทางออกจากห้าง ตนก็วิ่งไปทีแรกตั้งใจจะไปกระโดดถีบคนร้ายเพื่อช่วยจับกุม แต่คนร้ายหันมาพร้อมชักปืนข่มขู่ตนจึงต้องชะงักและถอยหลังหลับ จากนั้นคนร้ายก็วิ่งออกไปทางด้านหน้าลานจอดรถ ก่อนจะวิ่งหนีไปทางออกด้านข้าง นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จนสุดทางที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย